+++ เชิญชาวชมรมนักกลอนร่วมกันวางกติกาการประกวดกลอนกันครับ +++

[Cupid]

จากกระทู้ของท่านศิราน้อย เรื่องการประกวดกลอนสุภาพ (กลอนแปด) ซึ่งป้าหนึ่ง (๑๐๔๑๐๑๒) ได้
หารือกับ WM แล้ว ได้รับความเห็นชอบให้ชมรมฯดำเนินการได้ ขึงขออนุญาตเรียนมาเพื่อให้เพื่อน
สมาชิกฯได้มีส่วนร่วมในการวางแนวทางการดำเนินการ ว่าเราจะกำหนดรูปแบบกันอย่างไร เช่น ในเรื่อง
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์เข้าประกวด การกำหนดหัวข้อ การส่งผลงานเข้าประกวด (ที่ไหน อย่างไร) วัตถุ
ประสงค์ในการจัดการประกวด จะมีการประกวดเป็นครั้งคราวตามที่จะเห็นสมควรหรืออื่นๆ เรื่องรางวัลจะ
มาจากไหน และความคิดเห็นอื่นๆ เมื่อนำความคิดเห็นมาประมวลสรุปเป็นที่ยุติอย่างไร จึงจะมีการเสนอ
ตั้งคณะกรรมการด้านต่างๆ เช่นผู้รับและรวบรวมผลงานเข้าประกวด กรรมการตัดสิน

ผมขอเริ่มต้นที่คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์เข้าประกวดว่า ต้องมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดเชียงราย ต้องเป็น
สมาชิกเชียงรายโฟกัส กำลังศึกษาอยู่ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา ในจังหวัดเชียงราย

การส่งผลงานเข้าประกวด น่าจะให้ส่งเป็น PM ถึงกรรมการผู้รับผลงาน โดยให้แจ้งชื่อ ที่อยู่ สถานศึก
ษา ให้ชัดเจน เมื่อผลการตัดสินว่าเป็นผู้ชนะได้รับรางวัล จึงจะมีการตรวจสอบคุณสมบัติกัน

วัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการสนับสนุน ส่งเสริม และเพิ่มทักษะการใช้ภาษาไทยของเยาวชนและควรจัด
ประกวดเป็นครั้งคราวตามความเหมาะสม

เอาเท่าที่นึกได้ขณะนี้ก่อนนะครับ เชิญท่านอื่นๆบ้าง...


ขอใช้เวลาประมาณ ๑๕ วัน นับจากวันนี้ (๑๗ ม.ค.๕๕) นะครับ จะได้นำมาประมวลสรุปเป็นแนวทางต่อไป...

[ⒷⒼ*]

ตามนั้นครับท่าน เริ่มวันที่ 1 กพ 55 ใช่ไหมครับ
ส่วนระเบียบการณ์ที่ชัดเจน ขอให้ประกาศเป็นข้อๆอย่างชัดเจนด้วยครับ 

[Yim sri]

คงต้องร่วมแรงร่วมใจอย่างแข็งขัน
เพื่อผลักดัน การประกวด เกิดขึ้นได้
ทั้งยังให้ถูกต้องตามครรไล
โปรดช่วยให้คำชี้แนะ และกำลังใจ

[Yim sri]

ต้องการความคิด ความเห็นจากท่านๆค่ะ

[joecho]

เสียดายจัง ที่ผ่านวัยมัธยมมาแล้ว อิอิ

[Yim sri]

คงจะมีสักครั้งที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่ผ่านโลก มีประสบการณ์โชกโชนมาประกวด
แต่งกลอนกัน ว่าใครจะใช้เวลาแต่งนานทีีสุด
ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ขอเรียนเชิญท่านโจโฉมาร่วมแนะนำด้วยนะคะในฐานะกำนันใหญ่

[♡♡<Fairy>♡♡]

 ...หวา...ทำไงดี..ยังคิดม่ายออก...ขอเวลาสักครู่ (ใหญ่ๆ)...นะคะ..พ่อ แม่ พี่ น้อง ลุง ป้า น้า อา.....

[joecho]

คงจะมีสักครั้งที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่ผ่านโลก มีประสบการณ์โชกโชนมาประกวด
แต่งกลอนกัน ว่าใครจะใช้เวลาแต่งนานทีีสุด
ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ขอเรียนเชิญท่านโจโฉมาร่วมแนะนำด้วยนะคะในฐานะกำนันใหญ่

ยินดีรับใช้ครับ

[Siranoi]

     น่าจะให้เด็กส่งผลงานไปที่ท่านใดท่านหนึ่ง เช่น ลุงคิวปิด, ป้ามอย, หรือ ป้าแฟรี่ ฯลฯ
     แล้วให้ท่านนั้นเป็นสื่อนำมาโพสไว้อีกกระทู้หนึ่งแล้วให้คณะกรรมการ หรือ และ เพื่อนสมาชิก พิจารณาร่วมกันโดยผ่านทาง pm (เท่านั้น)
     รายละเอียดที่ควรระบุในการประชาสัมพันธ์ คือ ผู้ส่งผลงานเข้าประกวด สามารถติดตามผลงานของตัวเอง และการประกาศผลที่เว้ป ชรฟก ห้องชมรมนักกลอน (ในข้อนี้จะเป็นการประชาสัมพันธ์เว้ป ชรฟก ไปด้วยในตัว)

[flashi]

ต้องกำหนดประเภทของกลอนด้วยมั๊ยคะ ว่าจะเป็นกลอนอะไร

[Siranoi]

๑. กำหนดหัวข้อกลอน
๒. กำหนด
    - จำนวนบทและลักษณะบทกลอน
    - เนื้อหาของบทกลอน
๓. กำหนดคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมประกวด เช่น
    - ต้องมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดเชียงราย
    - ระดับประถมศึกษา
    - ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
    - ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เป็นต้น
    - เขียนชื่อ, นามสกุล, โรงเรียน, กำลังเรียนในระดับชั้น
    - ครู, อาจารย์ ประจำวิชาภาษาไทยลงชื่อรับรองทุกสำนวน
    - 1 คน สามารถส่งผลงานได้ไม่เกิน ... สำนวน
    - ต้องเป็นผลงานของผู้ส่งเข้าประกวดเอง และ ไม่เคยตีพิมพ์ที่ใหนมาก่อน
๔. กำหนด วัน, เวลา ในการเปิด - ปิด รับผลงาน
    - วิธีการส่งผลงาน
    - วิธีติดตามผลงาน และ การประกาศผล
    - วิธีเข้ารับรางวัล + ใบประกาศฯ

[ⒷⒼ*]

ดันหน่อย

[ตาต้อม]

ผมร่วมสนับสนุนของรางวัลด้วยครับ เป็นบ้านพร้อมที่ดินหนึ่งหลัง(บ้านปลานะ )
ส่วนเรื่องวางกติกาไม่ค่อยถนัดครับ  ว่าไงว่าตามกัน

[GOLDEN RIVER]

เท่าที่ได้เห็นการแต่งกลอนในกระทู้กลอนต่างๆ ส่วนใหญ่ที่เขียนกันจะเป็นกลอนแปด เป็นลักษณะของกลอนตลาด  ซึ่งจะไม่ค่อยเคร่งในเรื่องของสัมผัส แบบแผนอะไรมากนัก  แต่ที่ท่านศิราน้อยนำเสนอนั้น เป็นการประกวดกลอนแปด และเป็นกลอนสุภาพ กติกาจะค่อนข้างเคร่งครัดให้ถูกต้องตามลักษณะของกลอนสุภาพจริงๆ  ขอเสนอกติกา เอาเท่าที่นึกได้ตอนนี้ก็แล้วกันครับ
1. กลอนแปด ในแต่ละวรรคต้องมี 8 คำ ไม่ใช่วรรคนี้มี 8 คำ อีกวรรคมี 9 คำ เหมือนกลอนตลาด
2. ไม่มีสัมผัส "แย่ง" ซึ่งเป็นสัมผัสที่เกิดขึ้นก่อนที่จะถึงคำที่จะเป็นสัมผัสจริง เช่น
  "เป็นนักกลอน  ร่อนเร่   ใจเหว่ว้า    หาคนมา    อุ้มชู     ดูไม่เห็น 
จะเห็นว่าคำว่า "หา" แย่งรับ ก่อนถึงคำว่า "มา"   เป็นต้น
3. ไม่มีสัมผัส "เกิน" 
4. ไม่มีสัมผัส "เลือน"   ตัวอย่างเช่น ไกล กับ กลาย    จะมาใช้เป็นสัมผัสกันไม่ได้
5. ไม่มีสัมผัส "ซ้ำ"
และอื่นๆ ยังนึกไม่ออกครับ อาจแบ่งเป็น 2   ประเภท เช่น ประเภทนักเรียน นักศึกษา  และประเภทประชาชนทั่วไป  โดยกำหนดให้แต่งกลอนเป็นเรื่องๆไป เช่นถ้าใกล้ถึงวันแม่ ก็อาจให้เขียนกลอนเกี่ยวกับ "พระคุณแม่" เป็นต้น

[♡♡<Fairy>♡♡]

เท่าที่ได้เห็นการแต่งกลอนในกระทู้กลอนต่างๆ ส่วนใหญ่ที่เขียนกันจะเป็นกลอนแปด เป็นลักษณะของกลอนตลาด  ซึ่งจะไม่ค่อยเคร่งในเรื่องของสัมผัส แบบแผนอะไรมากนัก  แต่ที่ท่านศิราน้อยนำเสนอนั้น เป็นการประกวดกลอนแปด และเป็นกลอนสุภาพ กติกาจะค่อนข้างเคร่งครัดให้ถูกต้องตามลักษณะของกลอนสุภาพจริงๆ  ขอเสนอกติกา เอาเท่าที่นึกได้ตอนนี้ก็แล้วกันครับ
1. กลอนแปด ในแต่ละวรรคต้องมี 8 คำ ไม่ใช่วรรคนี้มี 8 คำ อีกวรรคมี 9 คำ เหมือนกลอนตลาด
2. ไม่มีสัมผัส "แย่ง" ซึ่งเป็นสัมผัสที่เกิดขึ้นก่อนที่จะถึงคำที่จะเป็นสัมผัสจริง เช่น
  "เป็นนักกลอน  ร่อนเร่   ใจเหว่ว้า    หาคนมา    อุ้มชู     ดูไม่เห็น 
จะเห็นว่าคำว่า "หา" แย่งรับ ก่อนถึงคำว่า "มา"   เป็นต้น
3. ไม่มีสัมผัส "เกิน" 
4. ไม่มีสัมผัส "เลือน"   ตัวอย่างเช่น ไกล กับ กลาย    จะมาใช้เป็นสัมผัสกันไม่ได้
5. ไม่มีสัมผัส "ซ้ำ"
และอื่นๆ ยังนึกไม่ออกครับ อาจแบ่งเป็น 2   ประเภท เช่น ประเภทนักเรียน นักศึกษา  และประเภทประชาชนทั่วไป  โดยกำหนดให้แต่งกลอนเป็นเรื่องๆไป เช่นถ้าใกล้ถึงวันแม่ ก็อาจให้เขียนกลอนเกี่ยวกับ "พระคุณแม่" เป็นต้น

 ...เย้ๆๆๆ...ดีใจจัง...มีผู้รู้มาช่วยกันอีกหนึ่งท่านแล้ว...
ขอบพระคุณมากค่ะท่าน GOLDEN RIVER ....

[GOLDEN RIVER]

ลองรวบรวมเกี่ยวกับฉันทลักษณ์ของกลอนสุภาพมาให้พิจารณา เผื่อว่าจะได้เอาไปเป็นกฎกติกาในการแต่งกลอนประกวดได้ครับ
 ฉันทลักษณ์๑.   ในวรรคหนึ่ง ๆ มีอยู่ ๘ คำ จะใช้คำเกินกว่ากำหนดได้บ้าง แต่ต้องเป็นคำที่ประกอบด้วยเสียงสั้น๒. การส่งสัมผัส คำที่ ๘ ของวรรคแรก สัมผัสกับคำที่ ๓ หรือคำที่ ๕ ของวรรคที่สอง คำที่ ๘ ของวรรคที่ ๒ สัมผัสกับคำที่ ๘ ของวรรคที่ ๓
๒.   คำที่ ๘ ของวรรคที่ ๓ สัมผัสกับคำที่ ๓ หรือที่ ๕ ของวรรคที่ ๔ และคำสุดท้ายของวรรคที่ ๔ ส่งสัมผัสไปยังคำสุดท้ายของวรรคที่ ๒ ของบทต่อไป
๓. วรรคสดับ หรือวรรคแรก คำสุดท้ายใช้คำเต้น คือ เว้นคำสามัญใช้ได้หมด แต่ถ้าจำเป็นจะใช้เป็นเสียงสามัญก็อนุญาตให้ใช้ได้บ้าง แต่อย่าบ่อยนัก  พยายามหลีกเลี่ยง
๔. วรรครับ หรือวรรคสอง คำสุดท้ายนิยมใช้เสียงจัตวา ส่วน เอก โท ตรี ได้บ้าง ห้ามเด็ดขาดคือ เสียงสามัญ
๕. วรรครอง หรือวรรคสาม คำสุดท้ายนิยมใช้เสียงสามัญ ห้ามใช้เสียงจัตวา หรือคำที่มีรูปวรรณยุกต์
๖. วรรคส่งหรือวรรคสี่ คำสุดท้ายนิยมใช้เสียงสามัญ ห้ามใช้คำตายและคำที่มีรูปวรรณยุกต์
๗. คำที่ ๓ ของวรรครองและวรรคส่ง ใช้ได้ทุกเสียง
๘. นิยมสัมผัสในระหว่างคำที่ ๕-๖-๗ ของทุก ๆ วรรค
๙. นิยมสัมผัสชิดในระหว่างคำที่ ๓-๔ ของวรรคสดับและวรรครอง
๑๐. อย่าให้มีสัมผัสเลือน, สัมผัสซ้ำ, สัมผัสเกิน, สัมผัสแย่ง, สัมผัสเผลอ, และสัมผัสเพี้ยน
ตัวอย่าง
กลอนสุภาพแปดคำประจำบ่อน...............อ่านทุกตอนสามวรรคประจักษ์แถลง
ตอนต้นสามตอนสองสองแสดง..............ตอนสามแจ้งสามคำครบจำนวน
มีกำหนดบทระยะกะสัมผัส.......................ให้ฟาดฟัดชัดความตามกระสวน
วางจังหวะกะทำนองต้องกระบวน............จึงจะชวนฟังเสนาะเพราะจับใจ

[GOLDEN RIVER]

ต่ออีกนิดครับ  เกี่ยวกับกติกาและการใช้สัมผัส

1.   ไม่ควรใช้คำไม่สุภาพ, คำหยาบต่างๆ มาใช้ เช่น เสือก, ตูด, ถุย ฯลฯ, คำแสลงเช่น มหา'ลัย, แม่ง ฯลฯ  เป็นต้น
2.   ไม่นำคำเสียงสั้น กับเสียงยาว มาสัมผัสนอกกัน   การกระทำ เช่นนี้ ถือว่าเป็นความผิดพลาด ทางฉันทลักษณ์โดยตรง โดยให้ดูที่รูปสระนั้นๆ เป็นหลักเช่น รัก สัมผัสกับ มาก, ใจ สัมผัสกับ วาย, คน สัมผัสกับ โดน, เก้า สัมผัสกับ ท้าว, เก็น สัมผัสกับ เขน ฯลฯ เป็นต้น ดังตัวอย่าง
ศึกสิงห์เหนือเสือใต้ในวันนี้
ขอสตรีร่วมบทบาทชาติสุขศานต์
ตาร้อยคู่ตาคู่เดียวเกี่ยวร้อยกัน
สงครามนั้นจักสงบเลิกรบรา
3.   สัมผัสซ้ำ มี ๒ ประเภทคือ
    ก. สัมผัสซ้ำแบบ "พ้องรูปและเสียง" คือเป็นการใช้คำสัมผัส เป็นคำเดียวกัน ซ้ำภายในบทกลอนบทดียวกัน  หรือบทติดๆกัน เช่น
ช่างกำเริบเสิบสานทหารชั่ว
อย่างเป็นผัวนางนี่ร้อยตรีสาว
วันัยอ่อนหย่อนดื้อแถมมือกาว
พบนายสาวไม่คำนับเข้าจับตัว
ข. สัมผัสซ้ำแบบ "พ้องเสียง"  คือเป็นการใช้คำสัมผัส เป็นคำพ้องเสียง ซ้ำภายในบทกลอนบทดียวกัน  หรือบทติดๆกัน เช่น
ชีวิตเลือกเกิดมิได้ใครก็รู้
ต้องดิ้นรนต่อสู้อุปสรรค
ทำให้ดีที่สุดอย่าหยุดพัก
ทางสู่ศักดิ์ศรีแม้ไกลเหมือนใกล้กัน
4.   ไม่ชิงสัมผัสก่อน ในการใช้คำ สัมผัสนอกกันนั้น พึงระวังมิให้ มีคำที่เป็นเสียง สระเดียวกัน กับคำที่ จะใช้สัมผัส ปรากฏก่อน คำสัมผัส ในวรรคเดียวกัน เช่น
จะไหวตัวกลัวเชยเลยลองนิ่ง
เขากลับติงว่านั่น มันเชยใหญ่
อะไรอะไรก็ตะบันไป
ทำฉันใดหนอพ้นเป็นคนเชย
    การกระทำเช่นนี้ จะทำให้กลอนด้อย ความไพเราะ ในเชิง คำสัมผัส เพราะมีการ ชิงสัมผัส กันก่อน

5.   ไม่สัมผัสเลือน มักปรากฏอยู่ในวรรค รับ (ที่ ๒) และวรรคส่ง (ที่ ๔) คือมีการใช้คำ สัมผัส ภายในวรรค เดียวกัน ในคำที่ ๓, ๕ และ ๘ เช่น
ถึงฤกษ์เรียงเคียงหมอนเมื่อนตอนดึก
กลับรู้สึกหนาวสั่นขันไหมเล่า?
ใครไม่เคยเข้าหออย่าล้อเรา
ถึงตัวเข้าบ้างคงหนาวเหมือนกล่าวเอย
จะเห็นได้ว่า คำว่า หนาว กับ กล่าว นั้น เป็นสัมผัสใน ที่ถูกต้องแล้ว แต่ดันไปสัมผัส กับคำว่า เข้า ก่อนหน้านี้อีก จึงติดเงื่อนไข การใช้สัมผัสเลือนไป

[flashi]

สุดยอดเลยค่ะ