ตัวแรกเลย กุ้ง เชอร์รี่
Common Name: Red Cherry Shrimp
Scientific Name: Neocaridina denticulata sinensis (red)
Size: 2.5-3.5cm
Ph: 6.6-7.0
Temp: 25-32c.
Food: Algae, fish food (flake, pellets etc)
Origin: Taiwan and northern Vietnam
กุ้งแคระที่สุดแสนจะเบสิคตลอดการ(ถ้าไม่นับกุ้งฝอยนะ) เลี้ยงดูง่าย-ง่ายมาก ออกลูกก็ง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่เพิ่งเริ่มมากที่สุด อดทนต่อสภาพน้ำใด้ในหลายสภาวะ แต่ก็ไม่ใด้หมายความว่าไม่จำเป็นต้องดูแลสภาพน้ำเลยนะ(อย่าขี้เกียจเชียว) อาหารหลักก็คือตะไคร่ ในที่เลี้ยงควรมีมอสใว้ให้มันหลบภัยและจะใด้เกิดตะไคร่ให้มันกินด้วย ทั้งยังสามารถกินอย่างอื่นใด้อีกหลากหลาย แนะนำเตตร้าบิตสำหรับปลาปอมแล้วก็อาหารปลาแพะของฮิคาริ มันชอบมากๆ ส่วนในเรื่องสีสันก็สดใสสวยงามเกินค่าตัวซะอีก แต่ถ้าออกลูกมาเยอะแล้วก็ควรจะหากุ้งเชอรี่ของคนอื่นมาสับสายบ้างเพื่อแก้ปัญหาเลือดชิดที่อาจทำให้สีสันในลูกกุ้งรุ่นต่อๆไปด้อยลง
กุ้งเชอรี่หาซื้อใด้ค่อนข้างง่ายในตลาดปลาสวยงาม ไม่ค่อยจะขาดตลาดซักเท่าไร ราคาก็อยู่ประมาณ5-10บาท

กุ้ง Tiger
Common Name: Tiger Shrimp
Scientific Name: Caridina sp. "Tiger" (belongs to the Caridina serrata species complex)
Size: 2.5-3.5cm
Ph: 6.6-7.0
Temp: best kept at 25-28c.
Food: Algae, fish food (flake pellets etc.)
Origin: probably southern China
กุ้งไทเกอร์ รูปร่างค่อนข้างหนากว่ากุ้งแคระชนิดอื่นๆเล็กน้อย การดูแลทั่วๆไปก็เหมือนๆกับเชอรี่ หลายๆคนบอกว่าเลี้ยงง่าย แต่ความเห็นส่วนตัวรู้สึกว่าดูแลยากกว่าเชอรี่พอสมควร มีทะยอยๆร่วงไปหลังจากซื้อมาเหมือนกัน แต่อาจจะเป็นเพราะกุ้งไทเกอร์ที่ซื้อมาบอบช้ำจากการขนส่ง ส่วนเรื่องการขยายพันธุ์นั้น ค่อนข้างยากกว่า แต่ก็มีหลายๆคนใด้ลูกกันบ้างแล้ว อัตราการให้ลูกค่อนข้างต่ำกว่าเชอรี่อย่างเห็นใด้ชัดเลย
กุ้งไทเกอร์จัดเป็นกุ้งที่หาซื้อใด้ไม่ยาก ราคา 100+

กุ้งยามาโตะ คับ
Common Name: Yamato, Amano shrimp, Yamatonuma Ebi
Scientific Name: Caridina japonica
Size: 5 cm
PH: 6.5-7.2
Temp: 22-28°C
Food: Algae, fish food (flake pellets etc.)
Origin: Japan, Taiwan
พระเอกในการจัดการตะไคร่ในแบบธรรมชาติของตู้ไม้น้ำเลย กับเจ้ากุ้งยามาโตะ อดทนต่อสภาพน้ำต่างๆใด้อย่างค่อนข้างดีมากเลยทีเดียว แต่เจ้านี่ค่อนข้างกร้าวร้าวเล็กน้อย คือในกรณีที่อาหารไม่เพียงพอ อาจจะตะครุบจับปลาเล็กๆหรือกุ้งแคระชนิดอื่นๆที่ตัวเล็กกว่าและเพิ่งจะลอกคราบมากินเป็นอาหารใด้ แต่ที่เลี้ยงๆมาก็ไม่มีปัญหาใดๆถ้าอาหารถึง แถมยังโตเอาๆใด้ถึง 5 cm.อีกด้วย คิดว่าเจ้านี่เป็นกุ้งแคระที่ตัวใหญ่ที่สุดในกลุ่มCaridina
ส่วนเรื่องการวางไข่นั้น ปกติแล้วเจ้ากุ้งยามาโตะจะไปวางไข่บริเวณน้ำกร่อย ฉะนั้นจึงเป็นไปใด้ยากที่ลูกๆของมันจะเติบโตในตู้กุ้งธรรมดา นอกจากว่าเราจำลองสภาพน้ำด้วยการค่อยๆเพิ่มความเค็มลงไปทีละน้อย มีรายงานว่าเริ่มมีการเพาะพันธุ์เจ้ายามาโตะสำเร็จในที่เลี้ยงกันบ้างแล้ว

ตัวนี้ กุ้งเขียว
Common Name: Green Shrimp
Scientific Name: Caridina cf. babaulti
Size: 2.5-3.5cm
Temp: 20-28°C
Ph: 6.8-7.5
Food: Algae, fish food (flake, pellets etc)
Origin: India
กุ้งแคระแสนสวยที่มาจากอินเดียตัวนี้ ค่อนข้างชอบค่าน้ำออกไปทางกระด้างเล็กน้อย เริ่มผสมพันธุ์ใด้เมื่อมีอายุใด้ประมาณ4เดือน และอุ้มท้องประมาณ4สัปดาห์
ส่วนสีสันของกุ้งกรีนนั้น ไม่ใด้มีแค่สีเขียวเพียงสีเดียว ยังสามารถเปลี่ยนสีจากเขียว เป็นเขียวเข้มน้ำตาล ไปจนถึงสีน้ำตาลไปเลยก็มี โดยขึ้นอยู่กับสถาพแวดล้อมรวมทั้งอุณหภูมิด้วย

Bee shrimp
Common Name: Bee Shrimp, "Crystal Black" Shrimp, Diamond Shrimp (in Singapore)
Scientific Name: Caridina sp. "Bee" (belongs to the Caridina serrata species complex)
Size: 2.5-3.5cm
Temp: 21-28°C
Ph: 6.5-7.2
Food: Algae, fish food (flake, pellets etc)
Origin: Southern China, Hong Kong
เจ้านี่ค่อนข้างจะเลี้ยงยากในระดับหนึ่ง ถ้าน้ำอุณหภูมิต่ำกว่า 25 c.ใด้นี่ยิ่งดีเลย
กุ้งบีเป็นกุ้งที่ถูกนำมาพัฒนาสายพันธุ์จนกลายเป็น กุ้งCrystal red, red bee และ black bee นั่นเอง และยังสามารถนำกุ้งบีไปผสมพันธุ์กับกุ้งไทเกอร์เพื่อให้ใด้ลูกที่แข็งแรงขึ้นใด้อีกด้วย

bumblebee shrimp
Common Name: Bumblebee Shrimp
Scientific Name: Caridina sp. "Bumblebee" (not the same species as Caridina cf. breviata)
Size: 2.5-3.5cm
Ph: 6.8-7.5
Temp: 21-26°C
Food: Algae, fish food (flake, pellets etc)
Origin: Southern China, Hong Kong
กุ้งบัมเบิลบีนั้นมองดูคล้ายกับกุ้งบีมาก แต่แตกต่างตรงที่ไม่มีสีส้มหรือน้ำตาลบริเวณจงอยปากหรือหาง และส่วนหัวมีสีออกน้ำตาล และสีของปล้องที่แบ่งกันใด้ชัดเจนกว่า นอกจากนั้นแล้วบัมเบิลบียังมีเฉดสีหลากหลายเช่นกัน แต่ส่วนมากที่พบคือปล้องสีดำหรือน้ำตาลสลับใส การเลี้ยงดูก็เหมือนกับกุ้งบี คือต้องการน้ำที่มีอุณหภูมิค่อนข้างต่ำกว่า25องศาใด้จะยิ่งดี จะทำให้มีโอกาสรอดสูงและสามารถขยายพันธุ์ในที่เลี้ยงใด้

สโนว์บอล
Common Name: Snowball Shrimp
Scientific Name: Neocaridina cf. zhangjiajiensis "white"
Size: 2.5-3.5cm
Temp: 20-28°C
PH: 6.6-7.0
Food: Algae, fish food (flake, pellets etc)
Origin: Wild form from Southern China (this white variety does not occur naturally anywhere, originally bred in Germany)
สโนว์บอลเป็นกุ้งแคระชนิดใหม่ที่เริ่มเป็นที่แพร่หลายสำหรับนักเลี้ยงกุ้งชาวอเมริกัน กุ้งชนิดนี้ถูกพัฒนามาจาก Neocaridina zhangjiajiensis โดยชาวเยอรมัน มันเป็นที่นิยมเนื่องจากสามารถเพาะพันธุ์ใด้ง่ายกับเหมือนกุ้งเชอรี่ โดดเด่นเป็นพิเศษด้วยสีขาวสวยงามดูตัดกับสีเขียวของต้นไม้น้ำ ยิ่งเวลาอุ้มไข่ด้วยแล้วยิ่งดูสวยขึ้นไปอีก อดทนต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิเหมือนกุ้งเชอรี่

บลูบี
Common Name: Caribbean Dwarf Filter Shrimp
Scientific Name: Micratya poeyi
Size:

-less than 5cm
Temp: 22-28°C
PH: can probably live under a wide range of ph and hardness conditions from acidic to alkaline.
Food: Filters floating food items from the water, can be given very small flake food or crushed/powderized food. Also takes food from the ground if there is nothing to filter.
Origin: Caribbean,Cuba
กุ้งชนิดนี้เป็นพวก Filter Shrimp แบบเดียวกับกุ้งกล้วยหอมของบ้านเรา คือมีขาหน้าที่เป็นพู่2คู่ใว้สำหรับดักอาหาร เช่นแพลงตอนเล็กๆที่ลอยปะปนอยู่ในน้ำมากิน ในขณะนี้ยังไม่ค่อยมีข้อมูลเกี่ยวกับกุ้งชนิดนี้มากนัก และยังไม่มีรายงานความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ในที่เลี้ยง อย่างไรก็ดี การเลี้ยงก็ไม่ค่อยแตกต่างจากการเลี้ยงกุ้งแคระทั่วๆไป คือควรเลี้ยงในตู้เฉพาะ และไม่มีสัตว์น้ำชนิดอื่นที่อาจทำอันตรายมันใด้

เรดบี
Common name : Cystal Red, Red bee, Zebra red, Diamomd shrimp
Scientific Name: Caridina sp.var cystal red (ผ่าเหล่าและพัฒนาสายพันธุ์มาจาก Normal Bee shrimp
Distribution : Original bee shrimp come from Chaina and Red bee is new breed and keep developing for 10 years in Japan
Size : 2.5 - 3.5 cm. (Female biggger than Male)
Temp: 20 - 25 C (24 C will be the best if controlable)
Ph : 6.5 not over 7.2 will be very dangerous for shrimp
Food : Algae, boil Spinish, red insect, shrimp food etc
ในประเทศไทย เราเรียกกุ้งชนิดนี้ว่า เรดบี และ คริสตัลเรด ซึ่ง เรดบี ชื่อนี้คนไทยเราเข้าใจว่า มีความหมายว่ากุ้งเกรดธรรมดา เช่นเกรด C, B ส่วนคริสตัลเรด
ในวงการกุ้งของไทยหมายถึง กุ้งเกรดสูงๆขึ้นไป
แต่ในญี่ปุ่น ประเทศที่ให้กำเนิดและพัฒนาสายพันธุ์ของมัน เรียกพวกมันทั้งหมด รวมทุกๆเกรดว่า Red Bee Shrimp
เจ้ากุ้งชนิดนี้ ผ่าเหล่ามาจากกุ้ง บี ธรรมดา มีลักษณะเป็นปล้องแดงสลับใส ในระยะแรก (สีแดงใสนี่เองเป็นที่มาของชื่อ cystal red)
จากนั้นได้มีการพัฒนาสายพันให้กุ้งมีสีขาวมากขึ้นเรื่อยๆจากการผสม inbreed ให้กุ้งมีเลือดชิดมากขึ้น ส่งผลให้กุ้งมีสีขาวมากขึ้น และ selection breed
คือการคัดเอากุ้งที่มีลักษณะเด่นมาพัฒนาสายพันธุ์ต่อไป การจัดระดับเกรด ตั้งแต่ C, B, A, S, SS ส่วนตำราบางเล่มจัดระดับของกุ้งเป็นตัวเลข
เริ่มจาก 1,2,3,4,4.5.........ไปเรื่อยๆ ยิ่งระดับยิ่งสูง สีขาวในตัวกุ้งยิ่งหนาและเยอะขึ้น ราคาก็แพงขึ้นตามมาเรื่อยๆ ทั้งนี้เพราะว่า กุ้งที่อยู่ในระดับสูงๆ
มีความเปราะสูงมากๆ และยังให้ลูกในจำนวนที่น้อยมากๆอีกด้วย ดังนั้นการที่จะเลี้ยงกุ้งในระดับสูงๆนี้ให้รอด ก็ต้องพึ่งอุปกรณ์เสริมจำนวนมาก
จึงทำให้ต้นทุนสูงตามไปด้วยครับ
นักเลี้ยงกุ้งส่วนมากคิดว่า เจ้านี่เลี้ยงยาก และเรื่องมาก ซึ่งถ้าคิดในด้านกรรมพันธุ์ของพวกเค้าแล้ว เราต้องเห็นใจและเอาใจใส่พวกเค้าเป็นพิเศษหน่อย
เพราะว่ากุ้งชนิดนี้เกิดในที่เลี้ยง ไม่ต้องหาทางปรับตัวดิ้นรนให้อยู่รอดเหมือนกุ้งชนิดอื่นๆในธรรมชาติ และแน่นอนว่า
คุณจะไม่มีทางพบพวกมันตามแหล่งน้ำในธรรมชาติได้เลย เพราะว่า พวกมันไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ในธรรมชาติได้
ทั้งในด้านการพลางตัวและความไวต่อสิ่งรอบด้านต่างๆ เช่นเคมีเป็นต้น
ไว้มาลงต่อ มีเยอะมากๆๆ
credit web เพื่อนบ้าน aqua.c1ub.net