เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 07 พฤษภาคม 2025, 10:31:47
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คนเชียงราย สังคมเชียงราย (ผู้ดูแล: bm farm, [ตา-รา-บาว], zombie01, ۰•ฮักแม่จัน©®, ตาต้อม, nuifish, NOtis)
| | |-+  ที่มาของ "ณ" ทั้งหลาย !!!
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน ที่มาของ "ณ" ทั้งหลาย !!!  (อ่าน 2566 ครั้ง)
Jittangkoon614
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 186


แค่ความคิดเปลี่ยน ชีวิตคุณก็เปลี่ยน


« เมื่อ: วันที่ 19 สิงหาคม 2014, 09:20:03 »

ต้นสกุล ณ : นามสกุลพระราชทาน
พอดีว่าแนบรายชื่อนามสกุล “ณ” ที่ได้รับการพระราชทานมาด้วย
ถ้านอกเหนือจากรายชื่อข้างล่างนี้ ถือว่าไม่ได้รับการพระราชทานนะครับ

ณ กาฬสินธุ์ --- พระไชยสุนทร (หมาสุ่ย) เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ พระยาไชยสุนทร (เก)
กรมการพิเศษเมืองกาฬสินธุ์ มณฑลร้อยเอ็ด

ณ จัมปาศักดิ์ --- เจ้ายุติธรรมธร (คำสุก) เจ้านครจัมปาศักดิ์ เจ้าศักดิ์ประสิทธิ์ (เจ้าเบงคำ)
และเจ้าศักดิ์ประเสริฐ์ (เจ้าอุย) ซึ่งได้ขอเข้ามารับราชการในเมืองไทย
โดยไม่ยอมอยู่ในบังคับของฝรั่งเศส

ณ เชียงใหม่ --- พระเจ้าบรมราชาธิบดีกาวิละ พระเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ ๑
และเจ้าผู้ครองนครลำปาง องค์ที่ ๓ เจ้าแก้วนวรัฐ (แก้ว) เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ ๙
องค์สุดท้าย

ณ ตะกั่วทุ่ง --- พระยาโลหะภูมิพิสัย ผู้สำเร็จราชการเมืองตะกั่วทุ่ง อำมาตย์โท หลวงราชภักดี (หร่าย)
ยกรบัตรมณฑลปัตตานี

ณ ถลาง --- พระยาถลาง (ฤกษ์) พระยาสุนทราทรธุรกิจ (หมี) กระทรวงมหาดไทย
และพระอาณาจักรบริบาล (อ้น) กระทรวงมหาดไทย และพระพิไสยสุนทรการ (แปลง)
ฃ้าหลวงตรวจการกรมสรรพากรนอก

ณ นคร --- นายพลโท พระยาวรเดชศักดาวุธ (แย้ม) ปลัดทูลฉลองกระทรวงกระลาโหม

ณ น่าน --- พระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช (สุริย) พระเจ้าผู้ครองนครน่าน พระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช

ณ ป้อมเพชร --- พระยาเพชร์ชฎ บรรดาศักดิ์เดิม พระสมุทบุรานุรักษ์ (ฃำ)
ผู้ว่าราชการเมืองสมุทปราการ เดิมตั้งบ้านเรือนอยู่ ณ ป้อมเพชร์ กรุงศรีอยุธยา พระยาเพชร์ชฎ

ณ พัทลุง --- พระยาพัทลุง (ขุน) บรรดาศักดิ์เดิม พระยาแก้วเการพพิไชย
ผู้สำเร็จราชการเมืองพัทลุง สมัยกรุงธนบุรี รองอำมาตย์เอก หลวงวิบูลย์บุรขันฑ์ (นพ)
กรมการพิเศษเมืองพัทลุง

ณ พิศณุโลก --- หม่อมคัทริน พระชายาในสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ
กรมหลวงพิศณุโลกประชานารถ ภายหลังในรัชกาลที่ ๗ พระราชทานนามสกุลเป็น จักรพงศ์

ณ มโนรม --- ผู้ว่าราชการเมืองมโนรม หลวงวินิจสารา (ดวง) นายเวรกรมบัญชาการ
กระทรวงนครบาล

ณ มหาไชย --- พระยานรนารถภักดี ถิ่นฐานเดิมอยู่ที่ตำบลมหาไชย พระยาเทพทวาราวดี (สาย)
อธิบดีกรมมหาดเล็ก สมัยรัชกาลที่ ๖

ณ ราชสีมา --- เจ้าพระยากำแหงสงคราม (ทองอิน) ผู้สำเร็จราชการเมืองนครราชสีมา

ณ ร้อยเอ็จ --- เพี้ยพระนคร (คำ) เจ้าเมืองร้อยเอ็จ พระยาขัตติยวงษา เอกาธิกะสตานันต์ (เหลา)
ผู้สำเร็จราชการเมืองร้อยเอ็ด

ณ ระนอง --- พระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี ชื่อเดิม ซู้เจียง แซ่คอ (คอซู้เจียง)
ผู้สำเร็จราชการเมืองระนอง อำมาตย์เอก พระยารัตนเศรษฐี (ยู่หงี) ผู้สำเร็จราชการเมืองระนอง

ณ ลำปาง --- พระเจ้าคำโสม พระเจ้าผู้ครองนครลำปาง องค์ที่ ๔ พลตรี เจ้าบุญวาทย์วงศ์มานิต (บุญทวงษ์)
เจ้าผู้ครองนครลำปาง องค์ที่ ๑๓

ณ ลำพูน --- เจ้าหลวงเศรษฐีคำฝั้น เจ้าผู้ครองนครลำพูน องค์ที่ ๑
และเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ ๓ พลตรี เจ้าจักรคำขจรศักดิ์ (น้อยจักรคำ)
เจ้าผู้ครองนครลำพูน องค์ที่ ๑๐ องค์สุดท้าย

ณ วิเชียร --- ผู้ว่าราชการเมืองวิเชียรบุรี พระยาประเสริฐสงคราม (ใจ)
จางวางกำกับราชการอำเภอวิเชียร จังหวัดเพ็ชรบูรณ์

ณ สงขลา --- เจ้าพระยาสงขลา (หลวงสุวรรณคีรีสมบัติ) ชื่อเดิม เหยี่ยง แซ่เหงา เจ้าเมืองสงขลา
สมัยกรุงธนบุรี พระยาพฤกษาภิรมย์ (ฑิตย์) เจ้ากรมสวนหลวง

ณ หนองคาย --- พระประทุมเทวา เจ้าเมืองหนองคาย พระอนุชาติวุฒาธิคุณ (แพ)
นายอำเภอเมืองเพ็ญ เมืองอุดรธานี

ณ อุบล --- พระประทุมวงษา (คำผง) เจ้าเมืองอุบลคนแรก พระอุบลประชารักษ์ (เสือ)
กรมการพิเศษจังหวัดอุบลราชธานี

สกุล ณ ที่มีการต่อท้ายนามสกุล
พรหมสาขา ณ สกลนคร --- เจ้านครสกลนคร พระยาประจันตประเทศธานี (โง่นคำ)
ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม --- เจ้าเมืองมหาสารคาม
รัตนดิลก ณ ภูเก็ต --- พระภูเก็ตโลหเกษตรรักษ์
สุนทรกุล ณ ชลบุรี --- กรมขุนสุนทรภูเบศร์ พระนามเดิมว่า เรือง หรือ จีนเรือง ชาวเมืองชลบุรี
ในสมัยรัชกาลที่ 1 ทรงโปรดเกล้าฯสถาปนาขึ้นเป็น เจ้าหม่อมหลวงจาบ

สกุล ณ ที่มีการต่อท้ายนามสกุลที่แยกออกจาก สกุล ณ เดิม
ณ นคร --- โกมารกุล ณ นคร
ณ ถลาง --- ประทีป ณ ถลาง
ณ พัทลุง --- สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
ณ ราชสีมา --- อินทรกำแหง ณ ราชสีมา

อ้างอิง
http://www.chiangkhong.com/memory/histry1.htm
http://webboard.mthai.com/5/2008-02-11/369050.html
http://board.dserver.org/s/saree/00000186.html
http://www.globalgroup.in.th/encyclopedia_lanna.html
http://www.lannaworld.com/cgi/lannaboard/reply_topic.php?id=23787
http://www.amed.go.th/aboutus/palace/sur_order.htm
IP : บันทึกการเข้า
ส้มแป้น
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 545



« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 19 สิงหาคม 2014, 09:40:07 »

ชอบจังค่ะ มีความรู้/เพิ่มความรู้ดีๆ
IP : บันทึกการเข้า

ไม่มีใครโชคร้ายตลอดชีวิต
hunsaza
สมาชิกลงทะเบียน
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 365


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 19 สิงหาคม 2014, 09:53:45 »

"ณ วรรณเล / ณ วรรณ์เล" อันนี้เล๊าะครับ มีที่มาก่อหา
IP : บันทึกการเข้า
Jittangkoon614
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 186


แค่ความคิดเปลี่ยน ชีวิตคุณก็เปลี่ยน


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 19 สิงหาคม 2014, 10:03:41 »

"ณ วรรณเล / ณ วรรณ์เล" อันนี้เล๊าะครับ มีที่มาก่อหา
นามสกุล “ณ” อื่นๆอีกหลาย “ณ” มาบ้าง แต่พอสอบวงศ์ตระกูล
ปรากฏว่ามิได้มีเชื้อเจ้าแต่อย่างใด  หรืออาจตั้งขึ้นมาเอง และอาจไม่มีที่มาด้วยครับ
IP : บันทึกการเข้า
Jittangkoon614
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 186


แค่ความคิดเปลี่ยน ชีวิตคุณก็เปลี่ยน


« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 19 สิงหาคม 2014, 10:05:10 »


ที่ไม่มีนามสกุล ณ เชียงราย
เรื่องนี้มีคนยกขึ้นมาถกนานละ โดยเฉพาะในเว็บสังคมคนล้านนาที่เชียงใหม่
ไหนๆก็มีคนอยากรู้ละ ผมจะเล่าให้ฟังแล้วกัน

เริ่มจากลำดับเจ้าหลวงเชียงรายก่อนครับ
เจ้าหลวงธรรมลังกา พ.ศ.2386-2407 ตำแหน่งเจ้าเมือง
เจ้าหลวงอุ่นเรือน พ.ศ.2407-2419 ตำแหน่งเจ้าเมือง
เจ้าหลวงสุริยะ พ.ศ.2419-2433 ตำแหน่งเจ้าเมือง
พระยารัตนาณาเขต (เจ้าหลวงเมืองไชย) พ.ศ.2433-2448***
***ตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (พ.ศ.2433-2442) ตำแหน่งนายอำเภอเมืองเชียงราย (2442-2448)

ส่วนสาเหตุที่ไม่มีนามสกุล “ณ เชียงราย” ก็...
มันเป็นเรื่องเล่าที่ปรากฏในเอกสารรายงานการตรวจราชการแผ่นดิน เรื่องมันเกิดขึ้นราว พ.ศ.2450
กล่าวกันว่า เจ้าปลัดคำตุ้ย ผู้สำเร็จราชการแทนเจ้าเมืองเชียงราย
เมาเหล้าแล้วลวนลามช่างฟ้อนต่อหน้าข้าหลวงสยามที่มาตรวจราชการที่เชียงราย
จึงถูกปลดพร้อมเนรเทศ แล้วยกเลิกระบบเจ้าเมืองในเชียงรายและตั้งข้าราชการมาเป็นผู้ว่า
ส่วนลูกหลานของท่านไม่มีใครกล้าไปขอใช้นามสกุล ณ เชียงราย
เพราะเกรงจะโดนพระอาญา

อย่างไรก็ตาม หากเราวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองในยุคนั้น
ต่อให้วันนั้นเจ้าคำตุ้ยจะไม่ดื่มเหล้าเมาจนขาดสติ หรือเรื่องเจ้าคำตุ้ยจะไม่เคยเกิดขึ้นจริง
แต่รัฐบาลสยามก็จะยกเลิกระบบกินเมืองของเชียงรายอยู่ดีนั่นแหละ
(สังเกตลำดับเจ้าหลวงข้างบน จะเห็นว่าเจ้าหลวงเมืองไชย เจ้าหลวงองค์สุดท้ายโดนลดขั้น
ลดลำดับความสำคัญ) เพราะภัยคุกคามจากอังกฤษในพม่า และฝรั่งเศสในลาว
ทำให้สยามต้องเร่งจัดการหัวเมืองชายแดนเช่นเชียงราย ให้มาขึ้นตรงต่อกรุงเทพฯ
(มิใช่ขึ้นต่อเชียงใหม่ อย่างที่แล้วๆมา)

นอกจากนี้ ยังไงเมืองเชียงรายก็คงไม่ได้พระราชทานนามสกุล “ณ” อยู่ดี
เพราะที่แล้วๆมา ตั้งแต่ พ.ศ.2486 เชียงรายก็เป็นหัวเมืองชั้นรองที่ขึ้นกับหัวเมืองชั้นเอกคือ
เชียงใหม่ (และเชียงใหม่ก็ไปขึ้นกับกรุงเทพฯอีกที) เช่น เดียวกับเมืองพะเยาที่ขึ้นกับลำปาง
เชียงของที่ขึ้นกับเมืองน่าน โดยปัจจุบันเชื้อสายเจ้าหลวงพะเยาสายตรงจะใช้นามสกุล “ศีติสาร”
ส่วนทายาทเจ้าหลวงเชียงของใช้นามสกุล “จิตตางกูร”

จะเห็นได้ว่าที่พะเยากับเชียงของ
แม้เจ้าของทั้งสองเมืองจะไม่ได้เมาเหล้าทำตัวน่าเกลียด แต่ยังไงก็ไม่ได้นามสกุล “ณ”
อย่างไรก็ดี นามสกุลเจ้าพะเยา “ศีติสาร” ก็ยังได้รับการพระราชทานจากรัชกาลที่ 6 เมื่อ พ.ศ.2457
และเจ้าเชียงของ “จิตตางกูร” ก็รับพระราชทานในปีเดียวกัน

ส่วนนามสกุล “เชื้อเจ็ดตน” ของเชื้อสายเจ้าหลวงเชียงรายและเชียงแสน
เป็นนามสกุลที่ตั้งขึ้นเองในหมู่ทายาท มิได้เกี่ยวข้องกับบุคคลชั้นสูงที่บางกอกแต่อย่างใด

ส่วน “ณ เมืองพาน” ไม่ทราบว่าตั้งเองหรือเปล่า เพราะผมก็เคยเห็น
นามสกุล “ณ” อื่นๆอีกหลาย “ณ” มาบ้าง แต่พอสอบวงศ์ตระกูล
ปรากฏว่ามิได้มีเชื้อเจ้าแต่อย่างใด
(เช็คข้อมูลได้ที่นี่ http://www.amed.go.th/aboutus/palace/sur_order.htm)

อ้อ นามสกุล “ณ แพร่” ก็ไม่มีนะครับ
เพราะในอดีตเจ้าหลวงเมืองแพร่เคยเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์กบฏเงี้ยวเมืองแพร่ เมื่อ พ.ศ.2445

พอดีว่าแนบรายชื่อนามสกุล “ณ” ที่ได้รับการพระราชทานมาด้วย
ถ้านอกเหนือจากรายชื่อข้างล่างนี้ ถือว่าไม่ได้รับการพระราชทานนะครับ
IP : บันทึกการเข้า
Jittangkoon614
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 186


แค่ความคิดเปลี่ยน ชีวิตคุณก็เปลี่ยน


« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 19 สิงหาคม 2014, 10:13:32 »

ที่มาของนามสกุล

บางนามสกุลนั้นก็พระราชทานตามอาชีพของผู้เป็นต้นสกุล  ตัวอย่างเช่น

                              สกุลพ่อค้า  จะมีคำว่า  วณิช  หรือ  วาณิช  และ  เวส  ประกอบในนามสกุล  เช่น  กมุทวณิช,  กัณหเวส,  คุปตะวาณิช,  กฤษณวณิช

                               สกุลชาวสวน  จะมีคำว่า  ผล  หรือ  ผลิน  ประกอบในนามสกุล  เช่น  ผลพันธิน,  ผลาชีวะ,  มณฑลผลิน

                               สกุลชาวนา   จะมีคำว่า  กสิกร  เกษตริน  หรือ  ศาลิ  ประกอบในนามสกุล  เช่น  โพธิกสิกร, รัตกสิกร, สนธิเกษตริน,

ศาลิคุปต์

                                สกุลทหารบก  จะมีคำว่า  โยธิน  ประกอบในนามสกุล  เช่น  พหลโยธิน,  พินธุโยธิน,  อุตตมะโยธิน

                                สกุลทหารเรือ  จะมีคำว่า  นาวิน  หรือ  กลิน  ประกอบในนามสกุล  เช่น  กนกนาวิน,  วิเศษนาวิน,  กฤษณกลิน,

บุญยรัตกลิน

                                สกุลทหารอากาศ  จะมีคำว่า  อากาศ  หรือ  นภา  ประกอบในนามสกุล  เช่น  รณนภากาศ

                                สกุลช่างสิบหมู่  จะมีคำว่า  ศิลปิน  ประกอบในนามสกุล  เช่น  เกียรติศิลปิน,  เตมียศิลปิน

                               สกุลแพทย์  จะมีคำว่า เวช  ไวทยะ  หรือ  แพทย์  ประกอบในนามสกุล  เช่น  โกมลเวช,  สุนทรเวช,  วีระไวทยะ,

ไวทยะชีวิน,  เวชชาชีวะ,  มิลินทแพทย์

                                สกุลพราหมณ์  จะมีคำว่า  พราหมณ  ประกอบในนามสกุล  เช่น  จุลละพราหมณ์,  พราหมณายน,  วินทุพราหมณกุล

                                สกุลโหรหลวง  จะมีคำว่า  โชติ  ประกอบในนามสกุล  เช่น  เศษโชติ,  สุนทรโชติ

                                สกุลนักดนตรี   จะมีคำว่า  วาทิน  ประกอบในนามสกุล  เช่น  กมลวาทิน,  สุนทรวาทิน
 กรมพระอัศวราช มีคำว่า อัศวิน ประกอบในนามสกุล เช่น ศวิน โกมลาศวิน, ชยาศวิน, มณฑาศวิน
สกุลแพทย์ มีคำว่า เวช, ไวทยะ, แพทย์ ประกอบในนามสกุล เช่น โกมลเวช, สุนทรเวช, ถาวรเวช, วีระไวทยะ, ไวทยะชีวิน, ตีรแพทย์, มิลินทแพทย์,เวชชาชีวะ
โหรหลวง มีคำว่า โชติ ประกอบในนามสกุล เช่น โชติวิท, เศษโชติ, สุนทรโชติ
พราหมณ์ มีคำว่า พราหมณ ประกอบในนามสกุล เช่น จุลละพราหมณ์, พราหมณายน, วินทุพราหมณกุล
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 19 สิงหาคม 2014, 10:16:07 โดย Jittangkoon614 » IP : บันทึกการเข้า
tangent
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,139


« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 19 สิงหาคม 2014, 10:42:36 »

ได้ความรู้เยอะ เลยครับ
ขอบคุณครับ
IP : บันทึกการเข้า
chate
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,023


« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 19 สิงหาคม 2014, 16:30:29 »

แต๊งกิ้วว ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
benzto
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,443


มิตรภาพซื้อไม่ได้ด้วยเงิน


« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 19 สิงหาคม 2014, 16:37:52 »

ณ เชียงราย บ่นี้กะครับ ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

ขออภัยในบางลีลา
LingJakJak
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 439


« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 19 สิงหาคม 2014, 16:38:33 »

อันนี้เอามาฮอมปอย เป็นเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ

http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=628838.0

IP : บันทึกการเข้า
เชียงรายพันธุ์แท้
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,024



« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 20 สิงหาคม 2014, 21:58:48 »


ที่ไม่มีนามสกุล ณ เชียงราย
เรื่องนี้มีคนยกขึ้นมาถกนานละ โดยเฉพาะในเว็บสังคมคนล้านนาที่เชียงใหม่
ไหนๆก็มีคนอยากรู้ละ ผมจะเล่าให้ฟังแล้วกัน

เริ่มจากลำดับเจ้าหลวงเชียงรายก่อนครับ
เจ้าหลวงธรรมลังกา พ.ศ.2386-2407 ตำแหน่งเจ้าเมือง
เจ้าหลวงอุ่นเรือน พ.ศ.2407-2419 ตำแหน่งเจ้าเมือง
เจ้าหลวงสุริยะ พ.ศ.2419-2433 ตำแหน่งเจ้าเมือง
พระยารัตนาณาเขต (เจ้าหลวงเมืองไชย) พ.ศ.2433-2448***
***ตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (พ.ศ.2433-2442) ตำแหน่งนายอำเภอเมืองเชียงราย (2442-2448)

ส่วนสาเหตุที่ไม่มีนามสกุล “ณ เชียงราย” ก็...
มันเป็นเรื่องเล่าที่ปรากฏในเอกสารรายงานการตรวจราชการแผ่นดิน เรื่องมันเกิดขึ้นราว พ.ศ.2450
กล่าวกันว่า เจ้าปลัดคำตุ้ย ผู้สำเร็จราชการแทนเจ้าเมืองเชียงราย
เมาเหล้าแล้วลวนลามช่างฟ้อนต่อหน้าข้าหลวงสยามที่มาตรวจราชการที่เชียงราย
จึงถูกปลดพร้อมเนรเทศ แล้วยกเลิกระบบเจ้าเมืองในเชียงรายและตั้งข้าราชการมาเป็นผู้ว่า
ส่วนลูกหลานของท่านไม่มีใครกล้าไปขอใช้นามสกุล ณ เชียงราย
เพราะเกรงจะโดนพระอาญา

อย่างไรก็ตาม หากเราวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองในยุคนั้น
ต่อให้วันนั้นเจ้าคำตุ้ยจะไม่ดื่มเหล้าเมาจนขาดสติ หรือเรื่องเจ้าคำตุ้ยจะไม่เคยเกิดขึ้นจริง
แต่รัฐบาลสยามก็จะยกเลิกระบบกินเมืองของเชียงรายอยู่ดีนั่นแหละ
(สังเกตลำดับเจ้าหลวงข้างบน จะเห็นว่าเจ้าหลวงเมืองไชย เจ้าหลวงองค์สุดท้ายโดนลดขั้น
ลดลำดับความสำคัญ) เพราะภัยคุกคามจากอังกฤษในพม่า และฝรั่งเศสในลาว
ทำให้สยามต้องเร่งจัดการหัวเมืองชายแดนเช่นเชียงราย ให้มาขึ้นตรงต่อกรุงเทพฯ
(มิใช่ขึ้นต่อเชียงใหม่ อย่างที่แล้วๆมา)

นอกจากนี้ ยังไงเมืองเชียงรายก็คงไม่ได้พระราชทานนามสกุล “ณ” อยู่ดี
เพราะที่แล้วๆมา ตั้งแต่ พ.ศ.2486 เชียงรายก็เป็นหัวเมืองชั้นรองที่ขึ้นกับหัวเมืองชั้นเอกคือ
เชียงใหม่ (และเชียงใหม่ก็ไปขึ้นกับกรุงเทพฯอีกที) เช่น เดียวกับเมืองพะเยาที่ขึ้นกับลำปาง
เชียงของที่ขึ้นกับเมืองน่าน โดยปัจจุบันเชื้อสายเจ้าหลวงพะเยาสายตรงจะใช้นามสกุล “ศีติสาร”
ส่วนทายาทเจ้าหลวงเชียงของใช้นามสกุล “จิตตางกูร”

จะเห็นได้ว่าที่พะเยากับเชียงของ
แม้เจ้าของทั้งสองเมืองจะไม่ได้เมาเหล้าทำตัวน่าเกลียด แต่ยังไงก็ไม่ได้นามสกุล “ณ”
อย่างไรก็ดี นามสกุลเจ้าพะเยา “ศีติสาร” ก็ยังได้รับการพระราชทานจากรัชกาลที่ 6 เมื่อ พ.ศ.2457
และเจ้าเชียงของ “จิตตางกูร” ก็รับพระราชทานในปีเดียวกัน

ส่วนนามสกุล “เชื้อเจ็ดตน” ของเชื้อสายเจ้าหลวงเชียงรายและเชียงแสน
เป็นนามสกุลที่ตั้งขึ้นเองในหมู่ทายาท มิได้เกี่ยวข้องกับบุคคลชั้นสูงที่บางกอกแต่อย่างใด

ส่วน “ณ เมืองพาน” ไม่ทราบว่าตั้งเองหรือเปล่า เพราะผมก็เคยเห็น
นามสกุล “ณ” อื่นๆอีกหลาย “ณ” มาบ้าง แต่พอสอบวงศ์ตระกูล
ปรากฏว่ามิได้มีเชื้อเจ้าแต่อย่างใด
(เช็คข้อมูลได้ที่นี่ http://www.amed.go.th/aboutus/palace/sur_order.htm)

อ้อ นามสกุล “ณ แพร่” ก็ไม่มีนะครับ
เพราะในอดีตเจ้าหลวงเมืองแพร่เคยเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์กบฏเงี้ยวเมืองแพร่ เมื่อ พ.ศ.2445

พอดีว่าแนบรายชื่อนามสกุล “ณ” ที่ได้รับการพระราชทานมาด้วย
ถ้านอกเหนือจากรายชื่อข้างล่างนี้ ถือว่าไม่ได้รับการพระราชทานนะครับ

ข้อความตางบนผมโพสต์ไว้เมื่อเมินมาแล้วครับ

ขอแก้ข้อมูลน่อครับ
ข้อหาของเจ้าอุปราชคำตุ้ย ไปค้นในเอกสารราชก๋ารสมัย ร.5
ได้ความว่า เปิ้นบ่ได้เมาเหล้าลวนลามแม่ญิงครับ
สาเหตุตี้เปิ้นโดนปลด ย้อนว่าเจ้าคำตุ้ยไปยู้คนตกหลังจ๊างจ๋นต๋าย
เป๋นคดีฆาตกรรมครับ

พระยาทรงสุรเดช (อั้น บุนนาค) ข้าหลวงสยามฮ้องเจ้าคำตุ้ยไปไต่สวนตี้เจียงใหม่ ผลคือเปิ้นผิดแต้
ข้าหลวงมอบหื้อเจ้าอินทวิชยานนท์เจ้าหลวงเจียงใหม่ลงโทษ ในฐานะผู้บังคับบัญชา
แต่ปายลูนเจ้าหลวงเจียงใหม่ปล่อยเจ้าคำตุ้ยปิกเจียงฮาย
ข้าหลวงสยามเซ็งสุดๆ แต่ก็ว่าหยังบ่ได้
ย้อนว่าสยามกำลังดำเนินแผนยึดล้านนา บ่ใคร่มีเรื่องผิดใจ๋กับเจ้าหลวง


* 001.jpg (44.04 KB, 530x133 - ดู 805 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 20 สิงหาคม 2014, 22:11:21 โดย เชียงรายพันธุ์แท้ » IP : บันทึกการเข้า
jeep
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 180



« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 29 สิงหาคม 2014, 16:47:54 »

http://phyathaipalace.org.a33.readyplanet.net/%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%A5%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%99

IP : บันทึกการเข้า
หมอกชวนฝัน
เพียงแค่สายลมพัดพา ให้มาเจอกัน
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,794



« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 30 สิงหาคม 2014, 14:26:03 »

ชอบจังครับกระทู้นี้ ได้ครวามรู้ดี ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!