พัฒนาการของอิ่วจาก้วย (油炸鬼) ที่มา
http://www.oknation.net/blog/ed/2008/07/10/entry-1ตอนเด็ก เช้าๆ ปู่จะขี่มอเตอร์ไซด์ไปซื้อ จาก้วย หรือ จาโก๋ย มากินกับกาแฟ หรือ ข้าวต้มร้านโกแหว่ง เวลากินกับกาแฟก็แสนง่าย
ฉีกและจิ้มลงในกาแฟ หรือ ไมโล อร่อยเหาะไปเลย
หรือจะฉีกใส่โจ๊ก หรือ ข้าวต้มก็ดี
หากเหลือเย็นชืดแล้ว ก็เสียบกับส้อม เอามาย่างไฟ มาจิ้มกับนมข้นหวานอร่อยนัก
ตกค่ำไปตลาดนัด มี จาก้วยขนาดเล็ก มักจะทอดขายคู่กับ ขนมใส้ไก่ มีเครื่องจิ้มเป็นสังขยาใบเตย จิ้มกินอร่อยอีกแบบ
พอโตขึ้นอยู่ในเมือง ชาวประชากลับเรียกว่า ปาท่องโก๋ไปนั่น หากบอก จาก้วย คนขายไม่รู้จัก หรือจะบอกเป็นเต็มของ จาก้วย ว่า อิ่วจาก้วย (油炸鬼) น้อยคนจะรู้จัก ส่วนประวัติของอิ่วจาก้วยมีดังนี้
สมัยราชวงศ์ซ่ง หรือ ราชวงศ์ซ้อง (大宋王朝, 宋朝 ต้าซ่งหวังเฉา หรือ ซ่งเฉา) (พ.ศ. 1503 ถึง ปีพ.ศ. 1822) มีขุนนางกังฉิน ชื่อว่า " ฉินข้วย" หรือ "ฉินฮุ่ย" มีความอิจฉาริษยา นายทหาร "เยียะเฟย" หรือ แม่ทัพงักฮุย จึงได้วางแผนให้ฮ่องเต้เรียกตัวงักฮุยกลับจากแนวหน้า และ ฉินข้วย ทำให้เขาถึงแก่ชีวิตในเวลาต่อมา ข่าวล่วงรู้ไปถึงประชาชนจึงโกรธแค้น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ช่วงนั้น ชาวจีนนิยมรับประทานแป้งทอดอยู่แล้ว และได้มีคนคิดเอาแป้งสองชิ้นมาประกบกันเพื่อเป็นตัวแทนขุนนางกังฉิน และภรรยาแซ่หวัง แล้วนำมาทอดกินเพื่อระบายความแค้น เรียกว่า “โหยวจ้าข้วย” หมายถึง น้ำมันทอดฉินข้วย
จาก้วย แต่ไหนแต่ไรก็เป็นแป้งสองอันติดกัน ขายแต่ก่อนคู่ 50 สตางค์ แล้ว มาเป็น 1 บาท เมื่อข้าวของแพงขึ้น จาก้วย 1 บาท ขนาดเล็กลงไปทุกที จนมีคนบอกคนขายว่า มันจะเป็นลูกจาก้วยไปทุกที คนขายเลยทำ ออกมา 2 รุ่น แบบ 1 บาท และ แบบ 2 บาทใหญ่กว่าเดิม
วันหนึ่งมี ชายกระทาลูกค้า สั่งคนขายว่า เอาชิ้นใหญ่เลย อันละ 2 บาท ไม่ต้องทำ สองซีกติดกัน คนขายลองทำดู ปรากฎว่า เกิดความนิยมขึ้น คนขายสะดวก ตัดแป้งชิ้นเดียว ไม่ต้องแปะ จาก้วยที่ว่านี้ มีข้อดีคือ ข้างนอกกรอบ ข้างในนุ่ม เพราะแป้งหนา
ปัจจุบันร้านนี้เลยทำ จาก้วยแบบชิ้นเดียวไม่แปะแป้ง 2 อันอีกแล้ว