ถามวิศวกร อิฐบล็อคตันกับอิฐมอญอันไหนดีกว่ากัน

[yaidd888]

เห็นที่ชรเกือบทุกแห่งใช้อิฐบล็อคเกือบทุกแห่ง แต่จังหวัดอื่นไม่เห็น สงสัยเพราะอิฐบล็อคทั้งหนักทั้งน้ำซึมง่ายเลยสงสัยผู้รู้ช่วยตอบหน่อย อายุตัวอาคารใครยาวกว่า

[civilroom]

ผมชอบอิฐมอญถ้าแปงบ้านอยู่เอง

แต่ถ้าแปงบ้านหื้อคนอื่นผมชอบอิฐบล็อคตัน


อันไหนดีกว่าในฐานนะวิศวกรขอตอบว่า  อิฐบล็อคตัน ครับ ^ ^ เพราะว่า

1. คุณภาพสม่ำเสมอ
2. ผลิตได้ตลอดปี ไม่เหมือนอิบมอฐ ผลิตได้น้อยช่วงหน้าฝน
3. ก่อสร้างได้เร็ว

แต่ผมก่อยังชอบอิฐมอญ

[Mong6]

ตอนนี้มีอิฐมวลเบา ดีที่สุด

สอบถามได้จากเครือซีเมนต์ไทย

[benzto]

ถ้ามีตัง เอาอิฐมวลเบาครับ

[maekok_14]

ตอนนี้มีอิฐมวลเบา ดีที่สุด

สอบถามได้จากเครือซีเมนต์ไทย

เห็นด้วยครับ
อิฐมวลเบา ช่วยลดความร้อนจากภายนอก
และเก็บความเย็นได้ในช่วงฤดูร้อน ทำให้อากาศภายในอากาศไม่ร้อนมาก
ช่วยในเรื่องของการระบายความร้อนได้ดี

[yaidd888]

ผมเคยสร้างบ้านใช้อิฐมวลเบาดีทุกอย่างเสียอย่างเดียวแขวนของหนักไม่ได้แขวนคอยร้อนไม่ได้แขวนตู้หนักๆไม่ได้ แขวนtv พลาสม่าก็ไม่ได้ครับ

[แมวเมียวๆแมวเมี๊ยวๆ]

ผมเคยสร้างบ้านใช้อิฐมวลเบาดีทุกอย่างเสียอย่างเดียวแขวนของหนักไม่ได้แขวนคอยร้อนไม่ได้แขวนตู้หนักๆไม่ได้ แขวนtv พลาสม่าก็ไม่ได้ครับ

ใช่แล้ว

[dekdee2516]

เชียงรายมีแผ่นดินไหว
อิฐมอญ ปูนฉาบร่อน(แต่ไม่ร่วง) เมื่อแผ่นดินไหว
อิฐมวลเบา กลัวน้ำกลัวชื้น แขวนของหนักไม่ได้
บล๊อกตัน หนักมาก โครงสร้างต้องดี

[civilroom]

ถ้าให้เลือกระหว่าง อิฐมอญ อิบบล็อกตัน อิฐมวลเบา ในฐานนะวิศวกร

แปงบ้านอยู่เอง ก่อยังเลือกอิฐมอญครับ ^ ^

แปงบ้านหื้อลูกค้าทั่วไปจะแนะนำหื้อใช้อิฐบล๊อคตันด้วยเหตุผลที่กล่าวมา

แปงบ้านหื้อลูกค้ามีระดับจะแนะนำหื้อใช้อิฐมวลเบา เพราะ

1. คุณภาพสม่ำเสมอ
2. ผลิตได้ตลอดปี ไม่เหมือนอิบมอฐ ผลิตได้น้อยช่วงหน้าฝน
3. ก่อสร้างได้เร็ว
4. หมดปัญหาแผงก่อล้มดิ่งเพราะแรงงานไร้ฝีมือยังก่อได้
5. ประหยัดปูนฉาบ

สาเหตุที่วิศวกรชอบใช้อิฐมอญสร้างบ้านให้ตัวเองเพราะ

1. ช่างปูนที่ทำเป็นแรงงานมีฝีมือ ( ช่างก่ออิฐมอญได้สวยและเร็วและค่าแรงถูก สมัยนี้หายาก )
2. อุตหนุดสินค้าในพื้นที่
3. อนุรักษ์วิถีชนบท


ฉนั้นอย่าเลือกใช้อิฐมอญเลยครับ มันคุมงานลำบาก

[kinkmit]

ผมเลือกอิฐมวลเบาครับ รองลงมาคืออิฐมอญ สุดท้ายคืออิฐบล็อค
เพราะอิฐบล็อคนั้นถ้าซื้อกับผู้ผลิตที่ไม่ได้มาตรฐานของจะไม่มีคุณภาพครับ เช่นใช้ทรายผสมมากเกินไปเพื่อทดแทนหินฝุ่นเพื่อประหยัดต้นทุนจะทำให้บล็อค เเตกง่ายครับ

[dekdee2516]

อิฐบล๊อกบางราย ทรายเยอะครับ ระวังด้วย

[godone108]

เอาอิฐมวลเบาครับ

[thexfile]

อิฐมอญ กับ อิฐมวลเบา ถ้าเป็นแรงกดด้านบนรับได้พอๆ กันแต่แรงดึงด้านข้างจากการทำชั้นวางของแบบ Built in แพ้อิญมอญหลุดลุ่ยครับ

[มนุษย์เงินเดือน]

อิฐมอญ กับ อิฐมวลเบา ถ้าเป็นแรงกดด้านบนรับได้พอๆ กันแต่แรงดึงด้านข้างจากการทำชั้นวางของแบบ Built in แพ้อิญมอญหลุดลุ่ยครับ

+1 ครับ เพราะที่หอพักผมก็ใช้อิฐมวลเบา ไอ้เรื่องเก็บเสียงต้องทำผนังสองชั้นไม่งั้นห้องข้าง ๆ คุยกันรับรองไม่ต้องเงี่ยหูฟัง ได้ยิน 40 เปอร์เซ็นต์

[บ้านนายช่าง]

ลูกค้าหลายๆท่านนิยมและสอบถามผมถึงการใช้วัสดุก่อผนังอย่างอิฐมวลเบา
ซึ่งเป็นที่นิยมและมีคุณสมบัติดีๆ หลายอย่าง เช่นการป้องกันความร้อน ความรวดเร็วในการทำงาน
แต่จากประสบการณ์การออกแบบให้ลูกค้ามา ส่วนใหญ่จะไปจบสรุปที่อิฐมอญเพราะด้วยปัญหาเรื่องราคางานก่อสร้าง ซึ่ง
หากเลือกใช้อิฐมวลเบาจะลดต้นทุนไปได้มาก ถ้าวัดกันก็จะประมาณนี้ครับ
ลูกค้าที่เลือกใช้อิฐมอญ 85% อิฐมวลเบา มีประมาณ 10% อิฐบล๊อค 5% ครับ เหตุผลคือ
1. อิฐมอญราคาต่อตารางเมตรถูกกว่าอิฐมวลเบา หาซื้อง่าย
2. ใช้ตามๆ กัน เพราะมีใช้มานานแล้ว
3. ขาดความรู้ ความเข้าใจ ในการใช้อิฐชนิดอื่นๆ
4. ใช้อิฐบล๊อคก็ดูไม่สมราคาบ้าน
5. ปัญญาหลัก คือคิดว่าอิฐมวลเบา และอิฐบล๊อค จะเจาะไม่ได้
ในความเป็นจริง อิฐทั้งสองชนิดข้างต้นสามารถเจาะได้ โดยใช้อุปกรณ์เฉพาะซึ่งก็หาได้ตามท้องตลาด
ดังนั้นอิฐบล๊อคจึงหน้าจะเป็นอีกทางเลือกของการลดต้นทุนและช่วยลดปัญหาโลกร้อนได้มากกว่าการใช้อิฐมอญ

อิฐมอญก็
คือผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการนำดินมาทำให้สะอาดปราศจากสิ่งเจือปน แล้วนำมาบดอัด ตัดเป็นก้อนเข้าเตาเผา ก็จะได้อิฐออกมาใช้ เข้าใจว่าเป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือนของคนมอญแถวเมืองปทุมฯ ก็เลยเรียกว่าอิฐมอญ

ความจริงอิฐในลักษณะนี้มีมานานมากแต่ครั้งโบราณกาล ดังที่เห็นได้จากการนำมาใช้ก่อเป็นกำแพง ระเบียงคด และเจดีย์ ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดก็คืออิฐในสมัยโบราณมีขนาดใหญ่กว่าอิฐในปัจจุบันประมาณเท่าตัว อิฐดูจะเป็นวัสดุก่อสร้างมาตรฐานตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน นั่นเป็นเพราะอิฐเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ซึ่งสามารถหาวัตถุดิบได้ง่าย ขบวนการทำก็ไม่ซับซ้อน และคุณสมบัติของอิฐก็นับว่าดีเยี่ยม ทั้งความสะดวกในการก่อ มีความสามารถในการทนไฟ ใช้เป็นฉนวนได้



มนุษย์รู้จักอิฐมาตั้งแต่ 4,000 ปี ก่อนคริสต์ศักราช หรือ ประมาณ 6,000 ปี มาแล้ว โดยพบในอียิปต์ มีความหนา 2-3 นิ้ว กว้าง 1 ฟุต ยาว 2 ฟุต ตอนนั้นใช้ดินตัดเป็นก้อนแล้วตากแดดให้แห้ง จนประมาณ 1,000 ปีก่อนคริสต์ศักราชจึงรุ้จักการเคลือบผิวของอิฐให้เป็นสีต่าง ๆ

อิฐที่นำมาใช้ในการก่อสร้างในปัจจุบันมักจะใช้ก่อเป็นผนัง โดยตัวมันไม่ได้ทำหน้าที่รับน้ำหนักแต่อย่างใด โดยเฉพาะการใช้อิฐมอญก่อผนัง เพราะอิฐมอญจะเปราะและดูดซับน้ำได้ จึงไม่เหมาะที่จะนำมาทำเป็นผนังที่ต้องรับน้ำหนัก คาน หรือพื้น



การก่ออิฐมอญเปลือยโชว์แนวคือไม่ฉาบปูน จะทำให้น้ำและความชื้นซึมเข้าได้ง่าย หากทาสีเอาไว้ก็จะหลุดล่อนได้ง่าย เนื้ออิฐก็จะเปื่อยยุ่ยได้ง่ายเช่นกัน ดังนั้นการใช้อิฐมอญจึงเป็นการใช้เพื่อก่อเป็นผนังหรือโครงสร้างใดที่ไม่ต้องรับน้ำหนัก เช่น ทำกระบะต้นไม้ เป็นต้น



อิฐมอญเป็นวัสดุก่อสร้างมาตรฐานที่ใช้กันมานานจนปัจจุบันก็มีอิฐในลักษณะคล้ายกัน แต่มีความประณีตสวยงามกว่า และมักใช้ก่อเปลือยโชว์แนวโดยเฉพาะที่เราเรียกว่าอิฐรู หรืออิฐราชบุรี

นอกจากนี้ก็ยังมีวัสดุก่อผนังอีกชนิดหนึ่งที่มีบทบาทในการก่อสร้างไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าอิฐมอญ นั่นก็คือคอนกรีตบล็อคและนั่นก็ทำให้เกิดปัญหาของผู้ใช้ว่าจะเลือกใช้อย่างไหนดีเพื่อประโยชน์ในทุก ๆ ด้านสูงสุด

แต่ถ้าพิจารณาในแง่ของการก่อสร้างแล้วทั้งอิฐมอญและคอนกรีตบล็อค จะมีความดีหรือความเหมาะสมต่อการใช้สอยที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน(ก่อสร้าง) นั้น ๆ ก็


คอนกรีตบล็อค
เป็นวัสดุก่อสร้างทำหน้าที่เช่นเดียวกับอิฐมอญ คอนกรีตบล็อคทำจากปูนซีเมนต์และหินเกล็ดคลุกเคล้ากันตามสัดส่วนที่เหมาะสมตามหลักการ แล้วบรรจุอัดลงในแบบเหล็กมาตรฐานในรูปแบบต่าง ๆ ตามที่ออกแบบเอาไว้(เป็นมาตรฐานเช่นกัน) แล้วกดอัดให้มีความหนาแน่นโดยเครื่องอัดแรงสูง ฉะนั้นการผลิตจึงสามารถทำให้ได้ขนาดสม่ำเสมอ และต้องให้ได้มาตรฐานคือมีความคลาดเคลื่อนของขนาดไม่เกินกว่า 3 มิลลิเมตร มี 6 เปอร์เซ็นต์ และเมื่อผลิตออกมาแล้วสู่ตลาด ซึ่งผิดกับอิฐมอญ ซึ่งจะต้องนำไปแช่น้ำหรือสาดน้ำเพื่อป้องกันการยืดหรือหดตัวของอิฐ และช่วยให้ดูดซึมปูนรอให้ยึดติดแน่นได้ดี



ปัญหาของการเลือกใช้อิฐมอญและคอนกรีตบล็อค ซึ่งมักเรียกกันผิด ๆ ว่าอิฐบล็อคนั้นอยู่ที่ 2 กรณีคือ

-         การใช้วัสดุทั้งสองในกรณีเดียวกัน

-         การใช้วัสดุทั้งสองกับสิ่งก่อสร้างที่แตกต่างกัน

กรณีแรกก็หมายถึงการนำมาใช้ก่อสร้างผนังอาคาร ในความรู้สึกของเรา อิฐมอญดูจะมีความแข็งแรงทนทานกว่า แต่เมื่อพูดถึงน้ำหนักต่อหน่วยแล้วอิฐมอญจะหนักกว่า การกันความร้อนคอนกรีตบล็อคจะกันได้ดีกว่า เพราะกลวง



อากาศภายในจะทำหน้าที่เป็นฉนวนกันความร้อน และเนื่องจากคอนกรีตบล็อคมีขนาดใหญ่กว่าอิฐมอญ จึงเหมาะที่จะใช้ก่อผนังขนาดใหญ่ เช่น ผังอาคารขนาดใหญ่ เพราะสามารถก่อได้รวดเร็วและกินเนื้อที่กว้างได้เร็วกว่าการก่อด้วยอิฐมอญ และที่สำคัญอย่างยิ่งคือให้น้ำหนักที่บรรทุกลงบนคานน้อยกว่าอิฐมอญ

ดังนั้นการเลือกใช้วัสดุทั้งสองน่าจะอยู่ที่การพิจารณาของสถาปนิก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งวิศวกรมากกว่า ในแง่ของน้ำหนักและความสะดวกในการก่อสร้าง สำหรับความรู้สึกของผู้อาศัยมักกล่าวว่าคอนกรีตบล็อคไม่แข็งแรงนั้นอาจจะจริงในแง่ของการทุบหรือตอกลงบนผิวคอนกรีต ซึ่งจะทะลุได้ง่าย แต่ถ้าพิจารณาในแง่ของการยึดเหนี่ยวในการทำหน้าที่ของมันแล้วจะไม่แตกต่างจากอิฐมอญเลย ข้อดีของคอนกรีตบล็อคคือไม่ต้องฉาบปูน เมื่อทาสีทับแล้วก็ดูเรียบร้อยพอสมควร และสำหรับการก่อสร้างผนังในเนื้อที่เล็กหรือมีการเจาะช่องประตู หน้าต่าง หรือช่องแคบมาก ๆ การใช้อิฐมอญอาจสะดวกกว่า เพราะมีขนาดเล็กสามารถก่อปิดเนื้อที่ได้  โดยไม่ต้องตัดอิฐมากนัก ผิดกับคอนกรีตบล็อคซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า เมื่อก่อไปแล้วอาจต้องตัดแบ่งคอนกรีตบล็อคเพื่อให้ก่อบรรจุลงในช่องหรือเนื้อที่ที่เหลือได้

กรณีที่สอง คือการใช้ก่อสร้างในส่วนที่แตกต่างกัน ซึ่งก็หมายถึงการก่อสร้างผนัง การก่อสร้างรั้ว ก่อสร้างบ่อน้ำ ถังน้ำ ถังเกรอะ ถังซึม ดังนี้เป็นต้น กรณีอย่างนี้เราจะเห็นว่าวัสดุทั้งสองจะมีความเหมาะสมสำหรับการก่อสร้างที่แตกต่างกัน จุดพิจารณาในกรณีนี้ก็คือความเหมาะสมกับเนื้อที่และรายละเอียดของงานก่อสร้างนั้น ๆ เช่น คอนกรีตบล็อคซึ่งมีขนาดใหญ่จะก่อสร้างได้เร็วและให้น้ำหนักเบา สำหรับรั้วซึ่งมีเนื้อที่มาก  การก่อสร้างบ่อเก็บน้ำ สามารถใช้ได้ทั้งสองชนิด เพราะจะต้องฉาบปูน ทำให้วัสดุทั้งสองมีความกระชับเป็นพื้นเดียวกัน แต่ก็ต้องพิจารณาถึงขนาดที่จะเป็นผลต่อน้ำหนักน้ำที่บรรจุ เพราะบ่อบ้ำขนาดใหญ่ที่สร้างด้วยคอนกรีตบล็อคเคยระเบิดออกมาแล้วด้วยแรงดันน้ำที่บรรจุอยู่ในบ่อนั้น เพราะแรงยึดเหนี่ยวระหว่างคอนกรีตไม่พอที่จะต้านแรงดันของน้ำได้ ในกรณีนี้การใช้อิฐมอญก่อ ซึ่งจะมีรอยประสานมากกว่าคอนกรีตบล็อค จะช่วยต้านแรงดันของน้ำได้



สรุปแล้วสำหรับการก่อสร้างบ้านอยู่อาศัยทั่วไป อิฐมอญดูจะมีภาษีกว่าในแง่ที่ว่ามีขนาดเล็ก สามารถก่อในพื้นที่เล็ก ก่อผนังที่เป็นรูปโค้งเว้า หรือมีการหักมุมข้อ หรือใช้ก่อเป็นรายละเอียดตกแต่งได้ง่ายกว่า แม้ว่าจะให้น้ำหนักบรรทุก(ลงที่คาน) มากกว่าคอนกรีตบล็อค แต่เนื่องจากสามารถทำได้สะดวกกว่า(แต่อาจไม่รวดเร็วกว่า) และพวกเราคุ้นเคยกับอิฐมอญมานานกว่า การใช้อิฐมอญจึงควรเป็นเรื่องปกติสำหรับการก่อสร้างทั่วไป แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าให้ใช้ความคุ้นเคยเป็นที่ตั้ง แต่ควรพิจารณาข้อมูลดังที่กล่าวมาแล้ว

การพิจารณาระหว่างอิฐมอญและคอนกรีตบล็อคไม่ได้จบอยู่ที่ประเด็นเหล่านี้ แต่ยังมีเนื้อหาในเชิงวิศวกรรมอีกประเด็นหนึ่ง คือคอนกรีตบล็อคเป็นวัสดุก่อสร้างที่ผลิตขึ้นมาสำหรับงาน “ก่อ” หลาย ๆ ประเภท เช่น การก่อผนัง รับน้ำหนัก ซึ่งหมายถึงผนังที่สามารถมั่นคงอยู่ได้ด้วยตัวมันเอง โดยวัสดุก่อสร้างที่เหมาะสม โดยไม่จำเป็นต้องใช้เสาสำหรับยึดเกาะ หรือสามารถทำเป็นผนังสูง ๆ ได้โดยใช้คอนกรีตบล็อคต่อเรียงไปตามยาวและสูงขึ้นไปมาก ๆ ได้ ซึ่งคอนกรีตบล็อคที่ใช้ในกรณีนี้เป็นคอนกรีตบล็อคอย่างหนา ที่ใช้สำหรับงานก่อผนังรับน้ำหนัก โดยเฉพาะ และในกรณีอย่างนี้จะเห็นว่า หากใช้อิฐมอญก่อก็สามารถทำได้ แต่จะต้องใช้เสาสำหรับยึดเกาะและมีเอ็นตามแนวนอน เมื่อก่ออิฐไปถึงระดับความสูง 2.50 เมตร แล้วจึงจะก่ออิฐทับต่อไปได้ โดยเอ็น ค.ส.ล.ดังกล่าวจะทำหน้าที่รับน้ำหนักของชั้นอิฐที่จะก่อต่อขึ้นไป



ประการต่อมาก็อยากจะกล่าวถึงก็คือ หากคำนึงถึงความสะดวกรวดเร็ว ประหยัดแล้ว การใช้ผนังคอนกรีตบล็อคสำหรับบ้านที่ต้องการราคาก่อสร้างถูกก็ดูจะเหมาะสมที่สุด เพราะคอนกรีตบล็อคมีขนาดได้มาตรฐานและผิวเรียบไม่จำเป็นต้องฉาบปูนทับ ซึ่งเป็นการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย

หวังว่าคงได่ประโยชน์นะครับ

[yaidd888]

ช่างนนท์ครับ ขอบคุณในรายละเอียด แต่อยากถามเรื่องบล็อคตันน้ำหนักต่อ ตรม หนักกว่าอิฐมอญใช่ไหมครับ ช่างพูดถึงบล็อคกลวง ไม่ได้พูดถึงบล็อคตันที่เดี๋ยวนี้นิยมมาก่อผนังตึก2 ,3,4,ชั้นซึ่งการคำนวณในแบบไม่ได้คำนวณโครงสร้างรับ บล็อคตันซึ่งผมเข้าใจว่าชร.มีแผ่นดินไหวน่าจะไม่เวิค แต่ถ้ามีการคำนวนสำหรับบล็อคตันก็คงใช้ได้ ไม่ทราบว่าถูกไหม เพราะบล็อคตันสามารถรับน.นในแนวดิ่งได้  ไม่ทราบว่าความเข้าใจผมถูกไหม อีกอย่างบล็อคตันคุณภาพแต่ละโรงก็ไม่เหมือนกัน ทรายมากก็แย่คนซื้อดูไม่เปน

[cHun_zA`]

ลูกค้าหลายๆท่านนิยมและสอบถามผมถึงการใช้วัสดุก่อผนังอย่างอิฐมวลเบา
ซึ่งเป็นที่นิยมและมีคุณสมบัติดีๆ หลายอย่าง เช่นการป้องกันความร้อน ความรวดเร็วในการทำงาน
แต่จากประสบการณ์การออกแบบให้ลูกค้ามา ส่วนใหญ่จะไปจบสรุปที่อิฐมอญเพราะด้วยปัญหาเรื่องราคางานก่อสร้าง ซึ่ง
หากเลือกใช้อิฐมวลเบาจะลดต้นทุนไปได้มาก ถ้าวัดกันก็จะประมาณนี้ครับ
ลูกค้าที่เลือกใช้อิฐมอญ 85% อิฐมวลเบา มีประมาณ 10% อิฐบล๊อค 5% ครับ เหตุผลคือ
1. อิฐมอญราคาต่อตารางเมตรถูกกว่าอิฐมวลเบา หาซื้อง่าย
2. ใช้ตามๆ กัน เพราะมีใช้มานานแล้ว
3. ขาดความรู้ ความเข้าใจ ในการใช้อิฐชนิดอื่นๆ
4. ใช้อิฐบล๊อคก็ดูไม่สมราคาบ้าน
5. ปัญญาหลัก คือคิดว่าอิฐมวลเบา และอิฐบล๊อค จะเจาะไม่ได้
ในความเป็นจริง อิฐทั้งสองชนิดข้างต้นสามารถเจาะได้ โดยใช้อุปกรณ์เฉพาะซึ่งก็หาได้ตามท้องตลาด
ดังนั้นอิฐบล๊อคจึงหน้าจะเป็นอีกทางเลือกของการลดต้นทุนและช่วยลดปัญหาโลกร้อนได้มากกว่าการใช้อิฐมอญ

อิฐมอญก็
คือผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการนำดินมาทำให้สะอาดปราศจากสิ่งเจือปน แล้วนำมาบดอัด ตัดเป็นก้อนเข้าเตาเผา ก็จะได้อิฐออกมาใช้ เข้าใจว่าเป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือนของคนมอญแถวเมืองปทุมฯ ก็เลยเรียกว่าอิฐมอญ

ความจริงอิฐในลักษณะนี้มีมานานมากแต่ครั้งโบราณกาล ดังที่เห็นได้จากการนำมาใช้ก่อเป็นกำแพง ระเบียงคด และเจดีย์ ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดก็คืออิฐในสมัยโบราณมีขนาดใหญ่กว่าอิฐในปัจจุบันประมาณเท่าตัว อิฐดูจะเป็นวัสดุก่อสร้างมาตรฐานตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน นั่นเป็นเพราะอิฐเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ซึ่งสามารถหาวัตถุดิบได้ง่าย ขบวนการทำก็ไม่ซับซ้อน และคุณสมบัติของอิฐก็นับว่าดีเยี่ยม ทั้งความสะดวกในการก่อ มีความสามารถในการทนไฟ ใช้เป็นฉนวนได้



มนุษย์รู้จักอิฐมาตั้งแต่ 4,000 ปี ก่อนคริสต์ศักราช หรือ ประมาณ 6,000 ปี มาแล้ว โดยพบในอียิปต์ มีความหนา 2-3 นิ้ว กว้าง 1 ฟุต ยาว 2 ฟุต ตอนนั้นใช้ดินตัดเป็นก้อนแล้วตากแดดให้แห้ง จนประมาณ 1,000 ปีก่อนคริสต์ศักราชจึงรุ้จักการเคลือบผิวของอิฐให้เป็นสีต่าง ๆ

อิฐที่นำมาใช้ในการก่อสร้างในปัจจุบันมักจะใช้ก่อเป็นผนัง โดยตัวมันไม่ได้ทำหน้าที่รับน้ำหนักแต่อย่างใด โดยเฉพาะการใช้อิฐมอญก่อผนัง เพราะอิฐมอญจะเปราะและดูดซับน้ำได้ จึงไม่เหมาะที่จะนำมาทำเป็นผนังที่ต้องรับน้ำหนัก คาน หรือพื้น



การก่ออิฐมอญเปลือยโชว์แนวคือไม่ฉาบปูน จะทำให้น้ำและความชื้นซึมเข้าได้ง่าย หากทาสีเอาไว้ก็จะหลุดล่อนได้ง่าย เนื้ออิฐก็จะเปื่อยยุ่ยได้ง่ายเช่นกัน ดังนั้นการใช้อิฐมอญจึงเป็นการใช้เพื่อก่อเป็นผนังหรือโครงสร้างใดที่ไม่ต้องรับน้ำหนัก เช่น ทำกระบะต้นไม้ เป็นต้น



อิฐมอญเป็นวัสดุก่อสร้างมาตรฐานที่ใช้กันมานานจนปัจจุบันก็มีอิฐในลักษณะคล้ายกัน แต่มีความประณีตสวยงามกว่า และมักใช้ก่อเปลือยโชว์แนวโดยเฉพาะที่เราเรียกว่าอิฐรู หรืออิฐราชบุรี

นอกจากนี้ก็ยังมีวัสดุก่อผนังอีกชนิดหนึ่งที่มีบทบาทในการก่อสร้างไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าอิฐมอญ นั่นก็คือคอนกรีตบล็อคและนั่นก็ทำให้เกิดปัญหาของผู้ใช้ว่าจะเลือกใช้อย่างไหนดีเพื่อประโยชน์ในทุก ๆ ด้านสูงสุด

แต่ถ้าพิจารณาในแง่ของการก่อสร้างแล้วทั้งอิฐมอญและคอนกรีตบล็อค จะมีความดีหรือความเหมาะสมต่อการใช้สอยที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน(ก่อสร้าง) นั้น ๆ ก็


คอนกรีตบล็อค
เป็นวัสดุก่อสร้างทำหน้าที่เช่นเดียวกับอิฐมอญ คอนกรีตบล็อคทำจากปูนซีเมนต์และหินเกล็ดคลุกเคล้ากันตามสัดส่วนที่เหมาะสมตามหลักการ แล้วบรรจุอัดลงในแบบเหล็กมาตรฐานในรูปแบบต่าง ๆ ตามที่ออกแบบเอาไว้(เป็นมาตรฐานเช่นกัน) แล้วกดอัดให้มีความหนาแน่นโดยเครื่องอัดแรงสูง ฉะนั้นการผลิตจึงสามารถทำให้ได้ขนาดสม่ำเสมอ และต้องให้ได้มาตรฐานคือมีความคลาดเคลื่อนของขนาดไม่เกินกว่า 3 มิลลิเมตร มี 6 เปอร์เซ็นต์ และเมื่อผลิตออกมาแล้วสู่ตลาด ซึ่งผิดกับอิฐมอญ ซึ่งจะต้องนำไปแช่น้ำหรือสาดน้ำเพื่อป้องกันการยืดหรือหดตัวของอิฐ และช่วยให้ดูดซึมปูนรอให้ยึดติดแน่นได้ดี



ปัญหาของการเลือกใช้อิฐมอญและคอนกรีตบล็อค ซึ่งมักเรียกกันผิด ๆ ว่าอิฐบล็อคนั้นอยู่ที่ 2 กรณีคือ

-         การใช้วัสดุทั้งสองในกรณีเดียวกัน

-         การใช้วัสดุทั้งสองกับสิ่งก่อสร้างที่แตกต่างกัน

กรณีแรกก็หมายถึงการนำมาใช้ก่อสร้างผนังอาคาร ในความรู้สึกของเรา อิฐมอญดูจะมีความแข็งแรงทนทานกว่า แต่เมื่อพูดถึงน้ำหนักต่อหน่วยแล้วอิฐมอญจะหนักกว่า การกันความร้อนคอนกรีตบล็อคจะกันได้ดีกว่า เพราะกลวง



อากาศภายในจะทำหน้าที่เป็นฉนวนกันความร้อน และเนื่องจากคอนกรีตบล็อคมีขนาดใหญ่กว่าอิฐมอญ จึงเหมาะที่จะใช้ก่อผนังขนาดใหญ่ เช่น ผังอาคารขนาดใหญ่ เพราะสามารถก่อได้รวดเร็วและกินเนื้อที่กว้างได้เร็วกว่าการก่อด้วยอิฐมอญ และที่สำคัญอย่างยิ่งคือให้น้ำหนักที่บรรทุกลงบนคานน้อยกว่าอิฐมอญ

ดังนั้นการเลือกใช้วัสดุทั้งสองน่าจะอยู่ที่การพิจารณาของสถาปนิก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งวิศวกรมากกว่า ในแง่ของน้ำหนักและความสะดวกในการก่อสร้าง สำหรับความรู้สึกของผู้อาศัยมักกล่าวว่าคอนกรีตบล็อคไม่แข็งแรงนั้นอาจจะจริงในแง่ของการทุบหรือตอกลงบนผิวคอนกรีต ซึ่งจะทะลุได้ง่าย แต่ถ้าพิจารณาในแง่ของการยึดเหนี่ยวในการทำหน้าที่ของมันแล้วจะไม่แตกต่างจากอิฐมอญเลย ข้อดีของคอนกรีตบล็อคคือไม่ต้องฉาบปูน เมื่อทาสีทับแล้วก็ดูเรียบร้อยพอสมควร และสำหรับการก่อสร้างผนังในเนื้อที่เล็กหรือมีการเจาะช่องประตู หน้าต่าง หรือช่องแคบมาก ๆ การใช้อิฐมอญอาจสะดวกกว่า เพราะมีขนาดเล็กสามารถก่อปิดเนื้อที่ได้  โดยไม่ต้องตัดอิฐมากนัก ผิดกับคอนกรีตบล็อคซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า เมื่อก่อไปแล้วอาจต้องตัดแบ่งคอนกรีตบล็อคเพื่อให้ก่อบรรจุลงในช่องหรือเนื้อที่ที่เหลือได้

กรณีที่สอง คือการใช้ก่อสร้างในส่วนที่แตกต่างกัน ซึ่งก็หมายถึงการก่อสร้างผนัง การก่อสร้างรั้ว ก่อสร้างบ่อน้ำ ถังน้ำ ถังเกรอะ ถังซึม ดังนี้เป็นต้น กรณีอย่างนี้เราจะเห็นว่าวัสดุทั้งสองจะมีความเหมาะสมสำหรับการก่อสร้างที่แตกต่างกัน จุดพิจารณาในกรณีนี้ก็คือความเหมาะสมกับเนื้อที่และรายละเอียดของงานก่อสร้างนั้น ๆ เช่น คอนกรีตบล็อคซึ่งมีขนาดใหญ่จะก่อสร้างได้เร็วและให้น้ำหนักเบา สำหรับรั้วซึ่งมีเนื้อที่มาก  การก่อสร้างบ่อเก็บน้ำ สามารถใช้ได้ทั้งสองชนิด เพราะจะต้องฉาบปูน ทำให้วัสดุทั้งสองมีความกระชับเป็นพื้นเดียวกัน แต่ก็ต้องพิจารณาถึงขนาดที่จะเป็นผลต่อน้ำหนักน้ำที่บรรจุ เพราะบ่อบ้ำขนาดใหญ่ที่สร้างด้วยคอนกรีตบล็อคเคยระเบิดออกมาแล้วด้วยแรงดันน้ำที่บรรจุอยู่ในบ่อนั้น เพราะแรงยึดเหนี่ยวระหว่างคอนกรีตไม่พอที่จะต้านแรงดันของน้ำได้ ในกรณีนี้การใช้อิฐมอญก่อ ซึ่งจะมีรอยประสานมากกว่าคอนกรีตบล็อค จะช่วยต้านแรงดันของน้ำได้



สรุปแล้วสำหรับการก่อสร้างบ้านอยู่อาศัยทั่วไป อิฐมอญดูจะมีภาษีกว่าในแง่ที่ว่ามีขนาดเล็ก สามารถก่อในพื้นที่เล็ก ก่อผนังที่เป็นรูปโค้งเว้า หรือมีการหักมุมข้อ หรือใช้ก่อเป็นรายละเอียดตกแต่งได้ง่ายกว่า แม้ว่าจะให้น้ำหนักบรรทุก(ลงที่คาน) มากกว่าคอนกรีตบล็อค แต่เนื่องจากสามารถทำได้สะดวกกว่า(แต่อาจไม่รวดเร็วกว่า) และพวกเราคุ้นเคยกับอิฐมอญมานานกว่า การใช้อิฐมอญจึงควรเป็นเรื่องปกติสำหรับการก่อสร้างทั่วไป แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าให้ใช้ความคุ้นเคยเป็นที่ตั้ง แต่ควรพิจารณาข้อมูลดังที่กล่าวมาแล้ว

การพิจารณาระหว่างอิฐมอญและคอนกรีตบล็อคไม่ได้จบอยู่ที่ประเด็นเหล่านี้ แต่ยังมีเนื้อหาในเชิงวิศวกรรมอีกประเด็นหนึ่ง คือคอนกรีตบล็อคเป็นวัสดุก่อสร้างที่ผลิตขึ้นมาสำหรับงาน “ก่อ” หลาย ๆ ประเภท เช่น การก่อผนัง รับน้ำหนัก ซึ่งหมายถึงผนังที่สามารถมั่นคงอยู่ได้ด้วยตัวมันเอง โดยวัสดุก่อสร้างที่เหมาะสม โดยไม่จำเป็นต้องใช้เสาสำหรับยึดเกาะ หรือสามารถทำเป็นผนังสูง ๆ ได้โดยใช้คอนกรีตบล็อคต่อเรียงไปตามยาวและสูงขึ้นไปมาก ๆ ได้ ซึ่งคอนกรีตบล็อคที่ใช้ในกรณีนี้เป็นคอนกรีตบล็อคอย่างหนา ที่ใช้สำหรับงานก่อผนังรับน้ำหนัก โดยเฉพาะ และในกรณีอย่างนี้จะเห็นว่า หากใช้อิฐมอญก่อก็สามารถทำได้ แต่จะต้องใช้เสาสำหรับยึดเกาะและมีเอ็นตามแนวนอน เมื่อก่ออิฐไปถึงระดับความสูง 2.50 เมตร แล้วจึงจะก่ออิฐทับต่อไปได้ โดยเอ็น ค.ส.ล.ดังกล่าวจะทำหน้าที่รับน้ำหนักของชั้นอิฐที่จะก่อต่อขึ้นไป



ประการต่อมาก็อยากจะกล่าวถึงก็คือ หากคำนึงถึงความสะดวกรวดเร็ว ประหยัดแล้ว การใช้ผนังคอนกรีตบล็อคสำหรับบ้านที่ต้องการราคาก่อสร้างถูกก็ดูจะเหมาะสมที่สุด เพราะคอนกรีตบล็อคมีขนาดได้มาตรฐานและผิวเรียบไม่จำเป็นต้องฉาบปูนทับ ซึ่งเป็นการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย

หวังว่าคงได่ประโยชน์นะครับ

เปิดร้านขายวัสดุก่อสร้าง ยังไม่รู้ลึกขนาดนี้เลยครับ ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ ถ้ามีแจกกิฟจะให้หมดหน้าตักเลยครับ 

[civilroom]

ในการออกแบบโครงสร้างบ้าน
น้ำหนักผนังไม่ว่าจะเป็น อิฐมอญ(180 กก/ตรม.) อิฐบล๊อคตัน(180 กก/ตรม.) อิฐมวลเบา(100 กก/ตรม.) นั้น
หากเป็นงานอาคารตึกแถว หอพัก ตึกสูง งานโครงการใหญ่ๆ วิศวกรจะคิดน้ำหนักตามนี้เพื่อประหยัดโครงสร้าง
แต่หากเป็นงานบ้านพักอาศัย วิศวกรแก่ๆจะพบว่า ตรูออกแบบ 180 กก/ ตร.ม. ไปเลยดีกว่า
เพราะส่วนใหญ่มีจะมีการเปลี่ยนแปลงวัสดุก่อ และเปลี่ยนตำแหน่งผนังก่อ ในภายหลังจากเจ้าของบ้านบ่อยๆ(ทุกงาน)ด้วยเหตุผลหลายประการ เช่น

 อิฐมวลเบาขาดตลาด ปูนก่ออิฐมวลเบาขาด ปูนฉาบอิฐมวลเบาขาด
(ไอ้พวกนี้เวลาขาดอันใดอันหนึ่ง จะใช้ปูนเขียวไม่ได้เลย ดูสิยุ่งยากไหม ปูนเหลือก็เอาไปทำอย่างอื่นไม่คุ้มเพราะแพง )

แต่ถ้าเป็นอิฐมอล ปูนเขียวเหลือก็เอาไปทำเป็นปูนปรับระดับพื้น จับเซี๊ยม ปูแกตนิตโต้ เป็นต้น



 

 

[Krugiftza]

ช่างผู้รับเหมาก็เสนออิฐบล๊อคคะ
ตัวบ้านพื้นที่ 190 ตร.ม. เหมาทั้งแรงทั้งวัสดุ รวมแล้ว 1.5 ล้านบาท

[@เชียงแสน]

อิฐมอญ ดีกว่าครับ แข็งแรงกว่า