เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 18 กรกฎาคม 2025, 12:18:17
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  เรื่องล้านนา ภาษากำเมือง
| | |-+  อยากรู้ประวัติที่ชัดเจน ของอำเภองาว คับ อำเภอเล็กๆ ที่อยู่ระหว่าง 3 จังหวัด
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน อยากรู้ประวัติที่ชัดเจน ของอำเภองาว คับ อำเภอเล็กๆ ที่อยู่ระหว่าง 3 จังหวัด  (อ่าน 10779 ครั้ง)
uddtar
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: วันที่ 13 กรกฎาคม 2010, 23:01:43 »

อยากรู้ประวัติที่ชัดเจน ของอำเภองาว  คับ   อำเภอเล็กๆ  ที่อยู่ระหว่าง  3 จังหวัด   ระหว่าง  ลำปาง   พะเยา   แพร่      เห็นมีประวัติล้านนาเข้มข้นเหมือนกัน  บ้านผมเองแต่ประวัติไม่เด่นชัดเท่าไหร่   ใครไป  ไทยสยาม  สายเก่า  ผ่านแน่นอนคับ  นอกจากนั่งเครื่องบิน  
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 13 กรกฎาคม 2010, 23:22:57 โดย uddtar » IP : บันทึกการเข้า
taekeuk_poomse
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 18 กรกฎาคม 2010, 12:34:00 »

อำเภอนี้ ต่ะก่อนชื่อเมืองง่าว ประชากรในเมืองนี้ เขาเป๋นคนบ่ฉลาด เยี๊ยะก๊าเยี๊ยะขายก่ บ่ประสบผลสำเร็จ เพราะ ปัญญาบ่ทันคนบ้านอื่นเมืองอื่น
เจ้าเมืองกับข้าราชบริพารประชุมกันว่า เป็นสังชา บ้านนี้เมืองนีมีแต่คนผญาปึ๊ก สืบไปสืบมา ก็เห็นว่า ชื่อเมืองนั้น มันเป็นกาลกิณี ด้วยคำว่า "ง่าว" นั้นมันทำหื้อคนในเมือง ง่าว นี้บ่ฉลาด  ก็เห็นพ้องต้องกันว่า น่าจะเอา "ไ้ม้เอก" นี้ ยกหื้อคนอื่นไปเหี๋ย คนในบ้านเมืองจะได้ฉลาดทันคนบ้านอื่น

ทีนี้ มีเมือง ที่อยู่ห่างจากเมืองง่าว นี้ ออกไป แห๋มสองเมือง ชื่อ เมือง "แพร" และเมือง"นาน" ได้งินว่า เมืองง่าว จะเอา "ไม้เอก" ออก   จึงต่างคนต่างก็อยากจะได้ไม้เอก จากเมืองง่าว มาเติมชื่อเมืองของตนเอง

ด้วยเหตุผลตี้ว่า เมืองนานนั้น เป็นเมืองที่ไปเมื่อใดกะบ่าถึงสักเตื้อ ย้อนว่าต้องใช้เวลาเดินทางนาน มาก กะเลยอยากจะได้ไม้เอกมาใ่ส่บนชื่อเมือง หื้อเป็น เมือง "น่าน" คนจะได้ใช้เวลาในการเดินทางไปมาสั้นลง(ว่าอั้น) 

และเมืองแพร เองก็เป๋นเมืองที่บ่ค่อยมีคนรู้จัก การค้าขายกะบ่าสะดวก กะเลยอยากจะได้ไม้เอก มาใส่ บนชื่อเมือง หื้อเป๋นเมือง "แพร่" จะได้เป๋นที่แพร่หลาย คนจะได้พากันมาค้าขายที่เมืองนี้นักๆ แต่เมืองแพร วางแผนไว้ว่า จะขาบรอถ้าเมืองนานไปเอาไม้เอกมา ก่อน แล้วจะดักปล้นไม้เอกจากคนเมืองนานมา

พอหลังจากที่เมืองนาน ไปขอไม้เอกจากเมืองง่าวแล้ว ก็ดีใจพากันจัดขบวนแห่ ไม้เอกมาถึงเขตเมือง แพร พวกเมืองแพรที่ซุ่มอยู่ก็เอาระเบิด โจ้งใส่หมู่แห่เมืองน่าน และแรงระเบิดนั้นกะเยี๊ยะหื้อไม้เอก หักออกเป็นสองซีก 

เมืองแพร กะได้ไปซีกหนึ่ง เมืองนาน กะได้ไปซีกหนึ่ง

ไปเติมชื่อเมือง ตัวเอง จึงกลายเป็น เมือง "แพร่" และ เมือง "น่าน" มาจนทุกวันนี้ชะแล.....ว่าอั้น

555555555555555
IP : บันทึกการเข้า
taekeuk_poomse
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 18 กรกฎาคม 2010, 12:41:58 »

ที่ตั้งและอาณาเขต

อำเภองาวตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัด เป็นอำเภอชายแดนติดกับจังหวัดพะเยาและจังหวัดแพร่ ที่ว่าการอำเภอปัจจุบันตั้งอยู่ริมถนนพหลโยธิน สายลำปาง-พะเยา บริเวณบ้านหนองเหียง ห่างจากตัวเมืองลำปางประมาณ 83 กิโลเมตร จากตัวเมืองพะเยาประมาณ 50 กิโลเมตร และจากตัวเมืองแพร่ประมาณ 89 กิโลเมตร มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียงดังต่อไปนี้

    * ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอวังเหนือและ อำเภอเมืองพะเยา (จังหวัดพะเยา)
    * ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอดอกคำใต้ (จังหวัดพะเยา) และอำเภอสอง (จังหวัดแพร่)
    * ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอสอง (จังหวัดแพร่) และอำเภอแม่เมาะ
    * ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอแจ้ห่ม
ประวัติ

อำเภองาวเดิมมีชื่อว่า เมืองเงิน เป็นหัวเมืองหลักเมืองหนึ่งของอาณาจักรล้านนา มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและเป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญของเมืองเขลางค์นคร (ลำปาง) เมืองเงินในอดีตมีเจ้าผู้ครองนครที่เข้มแข็งชำนาญการสงคราม มีความเชี่ยวชาญในการรบ โดยใช้ของ้าวเป็น อาวุธสำคัญ เมื่อข้าศึกจากหัวเมืองลื้อหัวเมืองเขินเข้ามารุกรานก็ไม่อาจรุกล้ำเข้าไป ถึงเมืองเขลางค์นครได้ เพราะเมื่อมาถึงเมืองเงินก็ถูกตีแตกพ่ายไปทุกครั้ง เจ้าเมืองเงินได้อาสาปราบปรามข้าศึก พวกฮ่อ เงี้ยว ที่มารุกรานถึงหัวเมืองเงี้ยว หัวเมืองลื้อ หัวเมืองเขิน จนถึงแคว้นสิบสองปันนา ได้รับชัยชนะจนเป็นที่ร่ำลือ เจ้าเมืองเขลางค์นครได้ประทานง้าวด้ามเงินเป็นบำเหน็จคุณงามดีและความกล้า หาญ เป็นที่ยินดีแก่ชาวเมือง จึงเรียกเจ้าเมืองว่า พระยาง้าวเงิน และเรียกชื่อเมืองว่า เมืองง้าวเงิน กาลเวลาผ่านมาได้เรียกเพี้ยนเป็น เมืองงาว ตามลำดับ

อีกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ เมืองงาวเป็นสถานที่ประทับและสวรรคตของพ่อขุนงำเมือง เจ้าเมืองพะเยา สหายร่วมน้ำสาบานกับสองมหาราชคือ พญามังรายมหาราชแห่งนครเชียงใหม่และพ่อขุนรามคำแหงมหาราชแห่งกรุงสุโขทัย ตามตำนานกล่าวไว้ว่า "เมื่อพ่อขุนงำเมืองได้มอบราชกิจต่าง ๆ ในการปกครองบ้านเมืองให้พญาคำแดงราชบุตร แล้วเสด็จได้ไปประทับพักผ่อนที่เมืองงาว ปี พ.ศ. 1841 พ่อขุนงำเมืองก็สิ้นพระชนม์ รวมพระชนม์มายุได้ 60 ปี"

การปกครองส่วนภูมิภาค

อำเภองาวแบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 10 ตำบล 78 หมู่บ้าน ได้แก่
1.หลวงเหนือ (Luang Nuea)    6 หมู่บ้าน             6.นาแก (Na Kae)    5 หมู่บ้าน    
2.หลวงใต้ (Luang Tai)       8 หมู่บ้าน             7.บ้านอ้อน (Ban On)    8 หมู่บ้าน    
3.บ้านโป่ง (Ban Pong)       10 หมู่บ้าน             8.บ้านแหง (Ban Haeng) 8 หมู่บ้าน    
4.บ้านร้อง (Ban Rong)       11 หมู่บ้าน             9.บ้านหวด (Ban Huat)    6 หมู่บ้าน    
5.ปงเตา (Pong Tao)       11 หมู่บ้าน             10.แม่ตีบ (Mae Tip) 5 หมู่บ้าน

การปกครองส่วนท้องถิ่น

ท้องที่อำเภองาวประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 10 แห่ง ได้แก่

    * เทศบาลตำบลหลวงเหนือ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหลวงเหนือทั้งตำบล
    * เทศบาลตำบลหลวงใต้ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหลวงใต้ทั้งตำบล
    * องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านโป่ง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านโป่งทั้งตำบล
    * องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านร้อง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านร้องทั้งตำบล
    * องค์การบริหารส่วนตำบลปงเตา ครอบคลุมพื้นที่ตำบลปงเตาทั้งตำบล
    * องค์การบริหารส่วนตำบลนาแก ครอบคลุมพื้นที่ตำบลนาแกทั้งตำบล
    * องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านอ้อน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านอ้อนทั้งตำบล
    * องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านแหง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านแหงทั้งตำบล
    * องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหวด ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านหวดทั้งตำบล
    * องค์การบริหารส่วนตำบลแม่ตีบ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลแม่ตีบทั้งตำบล

สถานศึกษา

    * โรงเรียนประชารัฐธรรมคุณ
    * โรงเรียนประชาราชวิทยา
    * โรงเรียนไชยชุมพลศึกษา

สถาบันอุดมศึกษาของรัฐที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง

    * มหาวิทยาลัยนเรศวร พะเยา ตั้งอยู่ตำบลแม่กา ตามถนนพหลโยธิน อำเภอเมืองพะเยา ห่างจากอำเภองาว 32 กิโลเมตร

บุคคลที่มีชื่อเสียง

บุคคลสำคัญที่สร้างชื่อเสียงให้กับอำเภองาวได้แก่ น.ส.เกษตราภรณ์ สุตา นักกีฬายกน้ำหนักหญิงเหรียญทองแดง จากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ค.ศ. 2000 ณ นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย


สถานที่ท่องเที่ยว

วัดจองคำ ศิลปะแบบไทยใหญ่ที่สวยงาม

ตั้งอยู่ตำบลบ้านหวด บนถนนสายลำปาง-งาว ห่างจากตัวอำเภองาว 10 กิโลเมตร วัดจองคำเป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งในจังหวัดลำปาง สถาปัตยกรรมก่อสร้างโดดเด่นเป็นสง่า เป็นศิลปะแบบไทยใหญ่ ไม่ปรากฏหลักฐานการสร้างที่แน่ชัด ตัววิหารชัยภูมิศิลปะแบบไทยใหญ่หลังเดิมถูกรื้อย้ายมาไปไว้ ณ เมืองโบราณ จังหวัดสมุทรปราการ หลังที่เห็นปัจจุบันเป็นศิลปะที่สร้างขึ้นมาใหม่ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2549 สืบเนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ได้มีการยกวัดราษฎร์ขึ้นเป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ วัดจองคำได้รับคัดเลือกให้เป็นพระอารามหลวงแห่งใหม่ในจังหวัดลำปาง และเป็นโรงเรียนสอนพระปริยัติธรรมแผนกบาลีประจำจังหวัดลำปาง แต่ละปีนักเรียนปริยัติธรรมสามารถสอบเปรียญธรรมบาลีได้หลายประโยคจนถึง ป.ธ.9 ได้รับพระราชทานอุปสมบทเป็นนาคหลวงจำนวนมาก เจ้าอาวาสและเจ้าสำนักได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามว่า พระราชปริยัติโยดม

ศาลเจ้าพ่อประตูผา

ตำนานเจ้าพอประตูผา เต่าตี่ปี้หนานฮู้มา เปิ้นเป็นทหารเอกของเจ้าหลวงลิ้นก่าน เจ้าหลวงเวียงหละกอน มีตำแหน่งตี่พญามือเหล็ก เปิ้นได้สร้างวีรกรรมสละจีวิตจ่วยเจ้าหลวงลิ้นก่านจากกองทัพพม่า เมื่อปี๋ใด พ.ศ. ใด จ๋ำบ่าได้แล้ว พม่าได้ยกกองทัพลุกเมืองหละปูนกาว่าเจียงแสนก่บ่าแน่ใจ๋ (แต่ปี้หนานกึดว่าน่าจะเป็นเมืองเจียงแสน เมื่อเปรียบเทียบกับภูมิประเทศแล้ว เพราะตี่ประตูผาเป็นช่องเขาแคบจากเจียงฮายกับพะเยาเพื่อผ่านเข้าไปยังเวียง หละกอน)

เรื่องนี้เป็นตำนานเวียงหละกอน (ลำปาง) ซึ่งในอดีตเป็นรัฐอิสระมีกษัตริย์ (เจ้าหลวง) ปกครอง ในรัชสมัยของเจ้าหลวงลิ้นก่าน พม่าต้องการขยายอิทธิพลเข้ามาในเขตแดนล้านนาแห่งนี้ จึงยกทัพมาเพื่อรุกรานเวียงหละกอน เจ้าหลวงลิ้นก่านได้ยกทัพออกไปต้านทัพพม่าที่ประตูผา เมื่อกองทัพทั้งสองปะทะกัน ต่างฝ่ายต่างเสียรี้พลเป็นเป็นจำนวนมาก กองทัพเวียงหละกอนเสียที เจ้าหลวงลิ้นก่านถูกทหารพม่าล้อมไว้ตรงถ้ำประตูผา พญามือเหล็กได้พาทหารเข้าสู้รบเพื่อปกป้องเจ้าหลวงของตนจนสุดความสามารถ เพื่อประวิงเวลารอกองทัพหนุนจากเวียงหละกอนมาช่วย จนทหารในกองทัพถูกทหารพม่าฆ่าตายจนหมดสิ้น เหลือแต่พญามือเหล็กเพียงคนเดียว พญามือเหล็กยังคงยืนถืออาวุธขวางปากถ้ำต่อสู้กับทหารพม่าเป็นสามารถตลอดทั้ง วันตั้งแต่เช้าจรดเย็น สามารถฆ่าทหารพม่าตายลงเป็นจำนวนมาก จนทหารพม่าไม่สามารถผ่านเข้าไปในถ้ำที่ซ่อนของพระเจ้าลิ้นก่านได้แม้แต่คน เดียว

ในที่สุดพญามือเหล็กได้เหนื่อยเจียนจะขาดใจตาย ก่อนจะตายยังมีจิตสำนึกได้ว่าหากตนเองล้มลงเมื่อใดแล้ว ทหารพม่าที่เหลือจะต้องเข้าไปทำร้ายเจ้าหลวงของตนเป็นแน่แท้ จึงไม่ยอมล้มลงเด็ดขาด และต่อสู้กับทหารพม่าต่อไปจนตัวเองขาดใจตายทั้งที่ยังยืนถืออาวุธจังก้าอยู่ อย่างนั้น ส่วนทหารพม่าที่เหลืออยู่ก็เข็ดขยาดไม่มีใครกล้าเข้ามาต่อสู้ด้วย ได้แต่ล้อมเอาไว้จนกระทั่งกองทัพหนุนของเวียงหละกอนยกตามมาช่วย พม่าจึงได้ยอมถอยทัพหนีกลับไปเนื่องจากกำลังที่เหลืออยู่ไม่สามารถจะสู้รบ ได้ เมื่อพม่าเลิกทัพกลับไปแล้วเจ้าหลวงลิ้นก่านได้พบว่า พญามือเหล็กได้เสียชีวิตลงแล้ว โดยที่ยังยืนถืออาวุธยืนจังก้าพิงผนังหน้าปากถ้ำไว้ ทำเวียงหละกอนรอดพ้นจากการรุกรานของพม่าได้ เจ้าหลวงลิ้นก่านได้สรรเสริญยกย่องวีรกรรมของพญามือเหล็ก โดยยกย่องให้เป็นเจ้าพ่อประตูผานับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา นี่คือวีรกรรมอันกล้าหาญของเจ้าพ่อประตูผา พญามือเหล็กทหารเอกของเจ้าหลวงลิ้นก่านแห่งเวียงหละกอน กระทรวงกลาโหมได้อัญเชิญนามมาตั้งเป็นค่ายรบพิเศษประตูผา เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจของทหารตราบจนปัจจุบัน

อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท

มีเนื้อที่ประมาณ 758,750 ไร่ ตั้งอยู่ระหว่างอำเภอเมืองลำปางกับอำเภองาว ห่างจากตัวเมืองประมาณ 66 กิโลเมตร ตรงกิโลเมตรที่ 665-666 แยกเข้าทางลูกรังประมาณครึ่งกิโลเมตร รถยนต์เข้าถึงเชิงถ้ำภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อย สวยงามมาก สลับซับซ้อนและมีถ้ำเล็กถ้ำน้อยมากมายที่มีความสวยงามแตกต่างกันไป พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เคยเสด็จประพาสถ้ำผาไท ในครั้งนั้นได้จารึกพระปรมาภิไธยย่อ ปปร. ไว้ภายในถ้ำเพื่อเป็นที่ระลึกในการเสด็จประพาส นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชม ทางอุทยานฯ ไม่มีบ้านพักบริการ รายละเอียดให้ติดต่อฝ่ายจัดการอุทยานแห่งชาติ

นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวอำเภองาว ถ้าหากไม่ต้องการพักในตัวเมืองสามารถพักในอำเภองาวได้ที่สมพรรีสอร์ต บ้านเป๊าะ ก่อนถึงตัวอำเภอ 2 กิโลเมตร

การเดินทาง

อำเภองาวห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 680 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8-9 ชั่วโมง สามารถเดินทางสู่อำเภองาวได้หลายเส้นทาง

    * ทางบก ถนนพหลโยธินสาย เหนือ เริ่มจากกรุงเทพมหานคร-นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-เข้าสู่ตัวเมืองลำปาง 600 กิโลเมตร ขับรถอีกประมาณ 83 กิโลเมตรก็จะถึงอำเภองาว ถนนสายลำปาง-งาว เป็นถนน 4 ช่องทางการจราจร สามารถสัมผัสธรรมชาติสวยงามตลอดสองข้างทาง ส่วนสายแพร่ ใช้เส้นทางแพร่-สอง-งาว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ
    * ทางรถไฟ ลงรถไฟที่สถานีรถไฟนครลำปาง แล้วต่อรถสู่อำเภองาวอีก 80 กิโลเมตร
    * ทางเครื่องบิน สามารถเลือกลงได้ที่ท่าอากาศยานลำปางหรือท่าอากาศยานแพร่ก็ได้
IP : บันทึกการเข้า
uddtar
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 18 กรกฎาคม 2010, 13:26:12 »

อำเภอนี้ ต่ะก่อนชื่อเมืองง่าว ประชากรในเมืองนี้ เขาเป๋นคนบ่ฉลาด เยี๊ยะก๊าเยี๊ยะขายก่ บ่ประสบผลสำเร็จ เพราะ ปัญญาบ่ทันคนบ้านอื่นเมืองอื่น
เจ้าเมืองกับข้าราชบริพารประชุมกันว่า เป็นสังชา บ้านนี้เมืองนีมีแต่คนผญาปึ๊ก สืบไปสืบมา ก็เห็นว่า ชื่อเมืองนั้น มันเป็นกาลกิณี ด้วยคำว่า "ง่าว" นั้นมันทำหื้อคนในเมือง ง่าว นี้บ่ฉลาด  ก็เห็นพ้องต้องกันว่า น่าจะเอา "ไ้ม้เอก" นี้ ยกหื้อคนอื่นไปเหี๋ย คนในบ้านเมืองจะได้ฉลาดทันคนบ้านอื่น

ทีนี้ มีเมือง ที่อยู่ห่างจากเมืองง่าว นี้ ออกไป แห๋มสองเมือง ชื่อ เมือง "แพร" และเมือง"นาน" ได้งินว่า เมืองง่าว จะเอา "ไม้เอก" ออก   จึงต่างคนต่างก็อยากจะได้ไม้เอก จากเมืองง่าว มาเติมชื่อเมืองของตนเอง

ด้วยเหตุผลตี้ว่า เมืองนานนั้น เป็นเมืองที่ไปเมื่อใดกะบ่าถึงสักเตื้อ ย้อนว่าต้องใช้เวลาเดินทางนาน มาก กะเลยอยากจะได้ไม้เอกมาใ่ส่บนชื่อเมือง หื้อเป็น เมือง "น่าน" คนจะได้ใช้เวลาในการเดินทางไปมาสั้นลง(ว่าอั้น) 

และเมืองแพร เองก็เป๋นเมืองที่บ่ค่อยมีคนรู้จัก การค้าขายกะบ่าสะดวก กะเลยอยากจะได้ไม้เอก มาใส่ บนชื่อเมือง หื้อเป๋นเมือง "แพร่" จะได้เป๋นที่แพร่หลาย คนจะได้พากันมาค้าขายที่เมืองนี้นักๆ แต่เมืองแพร วางแผนไว้ว่า จะขาบรอถ้าเมืองนานไปเอาไม้เอกมา ก่อน แล้วจะดักปล้นไม้เอกจากคนเมืองนานมา

พอหลังจากที่เมืองนาน ไปขอไม้เอกจากเมืองง่าวแล้ว ก็ดีใจพากันจัดขบวนแห่ ไม้เอกมาถึงเขตเมือง แพร พวกเมืองแพรที่ซุ่มอยู่ก็เอาระเบิด โจ้งใส่หมู่แห่เมืองน่าน และแรงระเบิดนั้นกะเยี๊ยะหื้อไม้เอก หักออกเป็นสองซีก 

เมืองแพร กะได้ไปซีกหนึ่ง เมืองนาน กะได้ไปซีกหนึ่ง

ไปเติมชื่อเมือง ตัวเอง จึงกลายเป็น เมือง "แพร่" และ เมือง "น่าน" มาจนทุกวันนี้ชะแล.....ว่าอั้น

555555555555555

5555555555555555555555555555  ต๋ำนาน  นี่ตลกดีคับ  แต่ทาจะเป๋นกำเล่าเอาไว้เพี๊ยกกั๋น 555 
IP : บันทึกการเข้า
uddtar
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 18 กรกฎาคม 2010, 13:29:18 »

ขอบคุณจั๊ดนักคับ  ตี้ได้เล่าอู้กันฟัง  แต่ต๋ำนานแรกฮาดี  5555
IP : บันทึกการเข้า
เด็กชาววัง(หงส์)แพร่
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 325



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 19 กรกฎาคม 2010, 11:35:49 »

อำเภองาวเดิมมีชื่อว่า เมืองเงิน เป็นหัวเมืองหลักเมืองหนึ่งของอาณาจักรล้านนา มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและเป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญของเมืองเขลางค์นคร (ลำปาง) เมืองเงินในอดีตมีเจ้าผู้ครองนครที่เข้มแข็งชำนาญการสงคราม มีความเชี่ยวชาญในการรบ โดยใช้ของ้าวเป็นอาวุธสำคัญ เมื่อข้าศึกจากหัวเมืองลื้อหัวเมืองเขินเข้ามารุกรานก็ไม่อาจรุกล้ำเข้าไป ถึงเมืองเขลางค์นครได้ เพราะเมื่อมาถึงเมืองเงินก็ถูกตีแตกพ่ายไปทุกครั้ง เจ้าเมืองเงินได้อาสาปราบปรามข้าศึก พวกฮ่อ เงี้ยว ที่มารุกรานถึงหัวเมืองเงี้ยว หัวเมืองลื้อ หัวเมืองเขิน จนถึงแคว้นสิบสองปันนา ได้รับชัยชนะจนเป็นที่ร่ำลือ เจ้าเมืองเขลางค์นครได้ประทานง้าวด้ามเงินเป็นบำเหน็จคุณงามดีและความกล้า หาญ เป็นที่ยินดีแก่ชาวเมือง จึงเรียกเจ้าเมืองว่า พระยาง้าวเงิน และเรียกชื่อเมืองว่า เมืองง้าวเงิน กาลเวลาผ่านมาได้เรียกเพี้ยนเป็น เมืองงาว ตามลำดับ

อีกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ เมืองงาวเป็นสถานที่ประทับและสวรรคตของพ่อขุนงำเมือง เจ้าเมืองพะเยา สหายร่วมน้ำสาบานกับสองมหาราชคือ พญามังรายมหาราชแห่งนครเชียงใหม่และพ่อขุนรามคำแหงมหาราชแห่งกรุงสุโขทัย ตามตำนานกล่าวไว้ว่า "เมื่อพ่อขุนงำเมืองได้มอบราชกิจต่าง ๆ ในการปกครองบ้านเมืองให้พญาคำแดงราชบุตร แล้วเสด็จได้ไปประทับพักผ่อนที่เมืองงาว ปี พ.ศ. 1841 พ่อขุนงำเมืองก็สิ้นพระชนม์ รวมพระชนม์มายุได้ 60 ปี
IP : บันทึกการเข้า
เด็กชาววัง(หงส์)แพร่
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 325



« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 19 กรกฎาคม 2010, 11:36:26 »

ศาล เจ้าพ่อประตูผา

ตำนานเจ้าพอประตูผา เต่าตี่ปี้หนานฮู้มา เปิ้นเป็นทหารเอกของเจ้าหลวงลิ้นก่าน เจ้าหลวงเวียงหละกอน มีตำแหน่งตี่พญามือเหล็ก เปิ้นได้สร้างวีรกรรมสละจีวิตจ่วยเจ้าหลวงลิ้นก่านจากกองทัพพม่า เมื่อปี๋ใด พ.ศ. ใด จ๋ำบ่าได้แล้ว พม่าได้ยกกองทัพลุกเมืองหละปูนกาว่าเจียงแสนก่บ่าแน่ใจ๋ (แต่ปี้หนานกึดว่าน่าจะเป็นเมืองเจียงแสน เมื่อเปรียบเทียบกับภูมิประเทศแล้ว เพราะตี่ประตูผาเป็นช่องเขาแคบจากเจียงฮายกับพะเยาเพื่อผ่านเข้าไปยังเวียง หละกอน)

เรื่องนี้เป็นตำนานเวียงหละกอน (ลำปาง) ซึ่งในอดีตเป็นรัฐอิสระมีกษัตริย์ (เจ้าหลวง) ปกครอง ในรัชสมัยของเจ้าหลวงลิ้นก่าน พม่าต้องการขยายอิทธิพลเข้ามาในเขตแดนล้านนาแห่งนี้ จึงยกทัพมาเพื่อรุกรานเวียงหละกอน เจ้าหลวงลิ้นก่านได้ยกทัพออกไปต้านทัพพม่าที่ประตูผา เมื่อกองทัพทั้งสองปะทะกัน ต่างฝ่ายต่างเสียรี้พลเป็นเป็นจำนวนมาก กองทัพเวียงหละกอนเสียที เจ้าหลวงลิ้นก่านถูกทหารพม่าล้อมไว้ตรงถ้ำประตูผา พญามือเหล็กได้พาทหารเข้าสู้รบเพื่อปกป้องเจ้าหลวงของตนจนสุดความสามารถ เพื่อประวิงเวลารอกองทัพหนุนจากเวียงหละกอนมาช่วย จนทหารในกองทัพถูกทหารพม่าฆ่าตายจนหมดสิ้น เหลือแต่พญามือเหล็กเพียงคนเดียว พญามือเหล็กยังคงยืนถืออาวุธขวางปากถ้ำต่อสู้กับทหารพม่าเป็นสามารถตลอดทั้ง วันตั้งแต่เช้าจรดเย็น สามารถฆ่าทหารพม่าตายลงเป็นจำนวนมาก จนทหารพม่าไม่สามารถผ่านเข้าไปในถ้ำที่ซ่อนของพระเจ้าลิ้นก่านได้แม้แต่คน เดียว

ในที่สุดพญามือเหล็กได้เหนื่อยเจียนจะขาดใจตาย ก่อนจะตายยังมีจิตสำนึกได้ว่าหากตนเองล้มลงเมื่อใดแล้ว ทหารพม่าที่เหลือจะต้องเข้าไปทำร้ายเจ้าหลวงของตนเป็นแน่แท้ จึงไม่ยอมล้มลงเด็ดขาด และต่อสู้กับทหารพม่าต่อไปจนตัวเองขาดใจตายทั้งที่ยังยืนถืออาวุธจังก้าอยู่ อย่างนั้น ส่วนทหารพม่าที่เหลืออยู่ก็เข็ดขยาดไม่มีใครกล้าเข้ามาต่อสู้ด้วย ได้แต่ล้อมเอาไว้จนกระทั่งกองทัพหนุนของเวียงหละกอนยกตามมาช่วย พม่าจึงได้ยอมถอยทัพหนีกลับไปเนื่องจากกำลังที่เหลืออยู่ไม่สามารถจะสู้รบ ได้ เมื่อพม่าเลิกทัพกลับไปแล้วเจ้าหลวงลิ้นก่านได้พบว่า พญามือเหล็กได้เสียชีวิตลงแล้ว โดยที่ยังยืนถืออาวุธยืนจังก้าพิงผนังหน้าปากถ้ำไว้ ทำเวียงหละกอนรอดพ้นจากการรุกรานของพม่าได้ เจ้าหลวงลิ้นก่านได้สรรเสริญยกย่องวีรกรรมของพญามือเหล็ก โดยยกย่องให้เป็นเจ้าพ่อประตูผานับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา นี่คือวีรกรรมอันกล้าหาญของเจ้าพ่อประตูผา พญามือเหล็กทหารเอกของเจ้าหลวงลิ้นก่านแห่งเวียงหละกอน กระทรวงกลาโหมได้อัญเชิญนามมาตั้งเป็นค่ายรบพิเศษประตูผา เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจของทหารตราบจนปัจจุบัน
IP : บันทึกการเข้า
เชียงรายพันธุ์แท้
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,024



« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 19 กรกฎาคม 2010, 22:48:21 »

เรื่องศาลเจ้าพ่อประตูผาหั้น

จะว่าท้าวลิ้นก่านรบกับพม่าก็บ่แม่นเสียทีเดียว
เพราะช่วงเวลาที่ท้าวลิ้นก่านครองเมืองลำปางนั้น
พม่ามีปัญหาภายในประเทศ บ่มีเวลามาจัดระเบียบหัวเมืองล้านนา
พอบ่มีไผคุม คนล้านนา (คนเมือง) เลยชิงความเป๋นใหญ่กั๋นเอง
เวลาหั้นเจ้าเมืองหละปูนเข้มแข็ง เลยส่ง "ท้าวมหายศ" มายึดเมืองลำปาง
เก็บส่วยส่งไปหละปูน
ท้าวลิ้นก่านสู้บ่ได้หนีไปประตูผา ทัพหละปูตวยไปรบที่หั้นแต่ก้าน
เกิดเป๋นตำนาน หนานข้อมือเหล็ก หรือ เจ้าพ่อประตูผา ในเวลาต่อมา

ต่อมา พ.ศ.2275 ท้าวมหายศโดน หนานทิพจ๊าง (ต้นตระกูลเจ้าเจ็ดตน) ยิงต๋าย
คนลำปางยกหนานทิพจ๊างเป๋นเจ้าเมืองลำปาง นามว่า พระยาสุละวะลือไชยสงคราม
แน่นอนว่า ท้าวลิ้นก่านเจ้าเมืองคนเก่าที่ลี้ภัยไปประตูผาย่อมบ่ปอใจ๋
แต่ก็ยะหยังบ่ได้เพราะหนานทิพจ๊างมีพม่าเป๋นแบ็กอัพหื้อ
เพราะมีหลักฐานว่าเปิ้นส่งบรรณาการไปอังวะ

ต๋อนหลัง หนานทิพจ๊างต๋าย เจ้าฟ้าชายแก้ว (พ่อพระเจ้ากาวิละ) ลูกหนานทิพจ๊างได้ครองเมืองต่อ
ท้าวมหายศได้โอกาสชิงเมืองคืน และไล่เจ้าฟ้าชายแก้วไปเมืองแป้

พ.ศ.2306 พม่าจัดก๋านปัญหาภายในเรียบร้อย ก็กลับมาจัดระเบียบล้านนา
เจ้าเมืองเจียงใหม่โดนยับไปพม่า ส่วนท้าวลิ้นก่าน เจ้าเมืองลำปาง ยอมสวามิภักดิ์
พม่าฮู้ว่าลำปางผิดใจ๋กั๋นเรื่องตำแหน่งเจ้าเมือง
เลยฮ้อง เจ้าฟ้าชายแก้ว กับ ท้าวลิ้นก่าน มาเคลียร์
แต่ตกลงกั๋นตึงบ่ได้ พม่าเลยหื้อ เจ้าฟ้าชายแก้วเป๋นเจ้าเมือง และท้าวลิ้นก่านเป๋นเสนา
แต่ก็ผิดกั๋นแหม

สุดท้าย โป่สุพลา (เนเมียวสีหบดี) ก็เลยหื้อดำน้ำแข่งกั๋น ไผดำเมินกว่าชนะ
ผลคือเจ้าฟ้าชายแก้วชนะ ท้าวลิ้นก่านเลยโดนประหาร

เจ้าฟ้าชายแก้วเมื่อได้ครองเมือง ก็ช่วยราชการพม่าดีเหลือหลาย
ส่งเจ้ากาวิละไปช่วยเนเมียวสีหบดีตีล้านจ๊าง (ลาว)
ส่งเจ้าคำสม (น้องบ่าวเจ้ากาวิละ) ไปช่วยเนเมียวสีหบดีเผาอยุธยาตวย


แรกๆความสัมพันธ์กับพม่าก็ถือว่าโอเค เปิ้นบ่ได้กดขี่หยังนัก
แต่พอหลัง พ.ศ.2310 เริ่มบ่ม่วนละ
เพราะพม่าเข้มงวดนักขึ้น ขุนนางพม่ากับขุนนางล้านนาผิดใจ๋กั๋น
ผลประโยชน์บ่ลงตั๋ว บ่ปั๋นอำนาจกั๋นอย่างตะก่อน
ยะหื้อพระยาจ่าบ้านบุญมา (เจียงใหม่) กับ เจ้ากาวิละ ย้ายพรรค ไปอยู่กับพระเจ้าตาก

รายละเอียดเรื่องหมู่นี้เซาะอ่านได้ในหนังสือประวัติศาสตร์ล้านนาครับ
ประวัติศาสตร์แบบชาตินิยมสุดโต่งสอนหื้อเฮาจังคนอื่น
อะหยังบ่ดี ก็โจ้งหื้อเปิ้นหมด โดยบ่ได้พิจารณาถึงข้อเท็จจริง
อย่างเรื่องพม่านี้ก็เหมือนกั๋น นอกจาก ประวัติศาสตร์ไทยจะมองพม่าในแง่ลบแล้ว
ในแบบเฮียนของละอ่อนพม่า เปิ้นก็เขียนด่าไทยไว้นักเหมือนกั๋นครับ
สอนหื้อจังกั๋นตั้งแต่ละอ่อนเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 01 สิงหาคม 2010, 21:47:22 โดย เชียงรายพันธุ์แท้ » IP : บันทึกการเข้า
เทพบุตรดาวเหนือ เคนชิโร่
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,614


เฮาจะฮักคนที่ฮักเฮา@^__^@


« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 20 กรกฎาคม 2010, 15:57:20 »

ขอบคุณครับ
IP : บันทึกการเข้า

ขายปลีกและส่ง
       - Micro SD Card,Flash Drive ยี่ห้อKingston Sandisk Apacer
       - Power Bank ,สายชาร์ท สายซิงค์ทุกรุ่น
       - ลำโพงกระป๋อง ,ลำโพงรถ
uddtar
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 20 กรกฎาคม 2010, 21:26:14 »

ขอบคุณจ๊าดนักเน้อคับกู่คู่กู่คน
IP : บันทึกการเข้า
Ck 401
"....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,267


...งานหนักไม่เคยฆ่าคน...


« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 21 กรกฎาคม 2010, 07:53:10 »

 ยิ้ม ได้ทั้งประวัติแนวชาวบ้านและแนววิชาการ
ขอบคุณครับ ยิ้มกว้างๆ ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

"....คณะเรา ไม่ยอมให้ด้อยถอยลง ต่ำเราต้องค้ำชูให้สูงจรุงศรี....."
....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา  ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
Kileer
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 248



« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 22 กรกฎาคม 2010, 18:40:58 »

น่าจะมาจาก ง้าว นะ เป็นอาวุดโบราณ
IP : บันทึกการเข้า
October_jib
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 310



« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 22 กรกฎาคม 2010, 18:53:15 »

ชอบประวัติอันแรกออกแนวชาวบ้านชาวบ้าน ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
ละอ่อนโบราณ
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,468



« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 01 สิงหาคม 2010, 21:45:16 »

แนวชาวบ้าน........ ระวังจะผ่านเมืองงาวบ่ได้เน้อ  ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

..............
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!