สอบถาม..ควรให้นักเรียนนำโทรศัพท์มาโรงเรียนได้หรือไม่

[Moo Mengkato]

พอดีเห็นข่าว ม.3 ที่เชียงใหม่น้อยใจครูยึดโทรศัพท์ เลยแขวนคอตาย...

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNek56azFNalkxTXc9PQ==&subcatid=
(ไม่ทราบข้อมูลเชิงลึกว่าสาเหตุที่แขวนคอตายมีอะไรที่มากกว่านี้หรือไม่)

...และที่โรงเรียนผมก็ห้ามเหมือนกัน..เลยอยากทราบข้อมูลรวมทั้งเหตุผลทั้งจากทุกท่านในบอร์ดว่า ควรหรือไม่ควรที่ห้ามนักเรียนนำโทรศัพท์มาโรงเรียน...

[lemongame]

ผมว่ายุคนี้คงห้ามแบบสมัยก่อนคงยากแล้วครับ แม้แต่เด็กประถมยังพกเลยครับสมัยนี้

[๋JK_Beauty]

โรงเรียนไหนห้ามนร ใช้ ก็ห้ามครูด้วยสิ


แย่จริงๆ การศึกษาไทย มิน่ามันลงเขาลงทุกวันๆๆ

[กา~ระ~เกด]

จริง ๆ ที่โรงเรียนก็มีห้าม แต่ก็มียกเว้นกรณีจำเป็น
แต่สรุปนักเรียนก็เอาไปอยู่ดี แล้วที่สำคัญวุฒิภาวะเค้ายังน้อย ในชั่วโมงเรียนก็เอาขึ้นมากด ๆ จิ้ม ๆ แชท ฟังเพลงเล่นเกม (เกือบทั้งชั่วโมง) แล้วจะเรียนรู้เรื่องไหม แถมปัญหาการลักขโมยอีก

ในฐานะที่เป็นครูไม่ควรให้นำโทรศัพท์มาโรงเรียน แต่ถ้าฐานะผู้ปกครองอาจจะอยากให้ติดตัวไว้เพราะสะดวกในการติดต่อบุตรหลาน

[กา~ระ~เกด]

โรงเรียนไหนห้ามนร ใช้ ก็ห้ามครูด้วยสิ


แย่จริงๆ การศึกษาไทย มิน่ามันลงเขาลงทุกวันๆๆ

ก็ดีคะจะได้เป็นโรงเรียนต้นแบบ

[b'ngo-nga]

น่าจะมีเวลาใช้  เอาไปโรงเรียนด้วยได้

[Siranoi]

คงห้ามเหมือนสมัยก่อนไม้ได้ดอก..
เพราะรัฐบาลทักษิณท่านได้เปลี่ยนระบบการศึกษาของไทยให้เป็นไปในแนวนี้ตั้งนานแล้ว
ที่เรียกว่าเป็นระบบสากล..แค่เรื่องไม้เรียว..ก็ยังคงเป็นปัญหาคาราคาซังไม่จบสิ้นเลย ขึ้นโรงขึ้นศาลก็เยอะ
แต่ครูควรมีข้อตกลงเป็นกฏเกณฑ์ในการใช้
จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
อีกอย่าง..คะแนนพฤติกรรม จิตพิสัย ก็มีอยู่ในมือครู
...................

............................

[BenzRacing]

โรงเรียนผมก้ใช้กันครับ ไม่เห็นว่าอะไรเลย

[RainOs]

ขึ้นอยู่กับนโยบายโรงเรียนครับ เพราะบางโรงเรียนก็มีตู้โทรศัพท์สาธารณะติดตั้งอยู่ ถ้าเด็กมีธุระก็ใช้โทรติดต่อได้ ที่โรงเรียนห้ามเพราะเวลาเรียนเด็กนำโทรศัพท์มาเล่นเกม ฟังเพลง เล่นเฟชบุ๊ค อินเตอร์เน็ต บางคนมีคลิปxxเต็มเครื่อง คลิปนัดกันตบตีก็มี กินเหล้าสูบบุหรี่เป็นกลุ่มถ่ายไว้ก็มี บางทีเด็กโดดโรงเรียนโทรนัดคนนอกมารับ ปัญหาตามมาเยอะครับ โรงเรียนที่ผมอยู่ห้ามใช้เลยยึดได้ก็สิ้นปีการศึกษาถึงมารับได้ ซึ่งโรงเรียนได้ประกาศตอนประชุมผู้ปกครองเลย ถ้าใช้ในทางที่ดีคงไม่ว่า แต่เด็กส่วนมากใช้ในทางที่ผิดครับ

[กา~ระ~เกด]

อีกอย่าง..คะแนนพฤติกรรม จิตพิสัย ก็มีอยู่ในมือครู
...................


อยู่ในมือครูจริง ๆ คะ หักจนติดลบ ก็แล้ว ยังมีมาพูดว่า
ดูสิไม่เห็นครูทำอะไรนู๋ได้ หักคะแนนแล้วไง -*- อืมมมมมมมมมม ครูอึ้งพูดไม่ออก
อนาคตของลูกหลานอย่าคิดว่าฝากไว้ที่ครู ที่โรงเรียนอย่างเดียว ที่บ้านก็สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน
หากทั้งโรงเรียนและผู้ปกครองร่วมด้วยช่วยกัน อนาคตดี ๆ ของบุตรหลานคงไม่ใช่แค่ฝัน
อย่าให้เป็นแบบพ่อแม่รังแกฉันเลย

[Noomanimemaster]

ครูต้องcontrol ให่้เด็กไม่นำมาเล่นในคาบให้ได้ครับ จะยึดเพราะเล่นในห้องมันก็อีกเรื่อง แต่ถ้าบอกว่าโรงเรียนห้ามเอามาผมว่ามันไม่ใช่อะครับ

[bigman power]

ครูต้องcontrol ให่้เด็กไม่นำมาเล่นในคาบให้ได้ครับ จะยึดเพราะเล่นในห้องมันก็อีกเรื่อง แต่ถ้าบอกว่าโรงเรียนห้ามเอามาผมว่ามันไม่ใช่อะครับ

+100

[กา~ระ~เกด]

ครูต้องcontrol ให่้เด็กไม่นำมาเล่นในคาบให้ได้ครับ จะยึดเพราะเล่นในห้องมันก็อีกเรื่อง แต่ถ้าบอกว่าโรงเรียนห้ามเอามาผมว่ามันไม่ใช่อะครับ

+100

control ลำบากมากเพราะพวกที่เอามาเล่นส่วนใหญ่เป็นเด็กเก.....นั่งหลบมุมหลังห้อง มัวแต่ไปยุ่งกับพวกนี้มาก ๆ พวกเด็กที่เค้าตั้งใจเรียนข้างหน้าก็น่าสงสารแย่สิคะ Y_Y

[liamtong]

มันคงจะเป็นความคิดในแต่ละมุมมอง ของคนต่างสถานะนะครับ
       ในฐานะของผู้ปกครองอาจจะคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรที่นักเรียนจะพกโทรศัพท์มือถือไปโรงเรียน เพราะง่ายต่อการติดต่อกับผู้ปกครอง หรือไม่ก็อยู่ที่มาตรการของโรงเีรียนที่จะจัดการกับนักเรียนที่ไม่รู้เวร่ำ เวลาในการใช้้โทรศัพท์ นักเรียนใช้โทรศัพท์ขณะเรียน ก็หักคะแนนสิ ทำโทษสิ เรื่องแค่นี้ไม่มี.....จัดการรึไง?
      แต่ถ้ามองกลับกัน ถ้าท่านเป็นครู คนที่เป็นครูจะรู้ดีว่าเวลาที่สอนนักเรียน ถ้านักเรียนพกโทรศัพท์มาเรียนด้วย ปัญหาที่ตามมามันมีมากมายครับ ไม่ว่าจะนำโทรศัพท์มาเล่นขณะเรียน เล่นเกมส์มั่งล่ะ แชทมั่งล่ะ ถ่ายรูปมั่งหละ แล้วท่านคิดว่านักเรียนเหล่านั้นจะเรียนรู้เรื่องหรือครับ นอกเหนือจากนั้นสื่อต่างๆที่มันไม่ดีที่มันมากับเทคโนโลยี ไม่ว่าจะคลิปโป๊ การถ่ายคลิปเวลาตบตีกันแล้วเอาไปเผยแพร่ให้คนอื่นดู ท่านคิดว่ามันสมควรหรือไม่ แม้แต่นักศึกษาในมหาวิทยาลัยบางคนยังแยกแยะไม่ออกเลยครับ  เพราะฉะนั้น เด็กก็คือเด็กนะครับเขาไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมาหรอกครับ เขาอยู่ในวัยคึกคะนอง อยากทำไรก็ทำ เพื่อให้เป็นที่สนใจของเพื่อน ๆ
      การที่ไม่ให้นักเรียนนำโทรศัพท์มือถือไปโรงเรียนก็ถือว่าเป็นการป้องกันเรื่องเหล่านี้ได้ส่วนหนึ่งครับ ถึงแม้ว่าจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตาม แต่ก็ถือว่าป้องกันได้ดีในระดับหนึ่ง เพราะเวลาที่เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นมา สังคมมักจะมองโรงเรียนว่าผิดเสมอ อยากให้ย้อนกลับไปถึงผู้ปกครองด้วยครับว่าท่านดูแลลูกหลานท่านดีหรือยัง ถ้ามัวแต่โทษกันไปมามันก็ไม่มีที่สิ้นสุดหรอกครับ ควรจะช่วยกันดูแลเขาให้ดี ดีกว่าครับ

[updoon]

เทคโนโลยีมันมีสองด้านเสมอ

-ข้อดี ผู้ปกครองติดต่อง่าย....(แล้วทำไม เด็กเมื่อก่อนก็ไม่มี ยังติดต่อกันได้)
  ปัญหาที่พบ  เด็กเล่นจนแบตหมด ผู้ปกครองก็โทรหาไม่ติดอยู่ดี , สนใจเล่น(เกมส์ในมือถือ) มากกว่าเรียน

ยิ่งถ้าเป็นสมาร์ทโฟน เด็กแอบติดต่อกัน โดยผู้ปกครองไม่มีทางทราบ (ลองไปอ่านภาษาที่เด็ก ม.ต้น ใช้ติดต่อกันทางเฟสบุ๊คดู)
 

เด็ก ป.6 บางคน ยังเคยขอผู้ปกครองไว้  ถ้าสอบเข้า ม.1 โรงเรียนนี้ได้ ขอมือถือ BB เป็นรางวัล....

หลังจากนั้นละครับ.....
-เสียเงินเติมโปรฯ-BB.คุยกับเพื่อน , ถ่ายรูป , เล่นเฟสบุค.....ตอนเย็นแบตหมดผู้ปกครองโทรหา ไม่ติด

[กา~ระ~เกด]

มันคงจะเป็นความคิดในแต่ละมุมมอง ของคนต่างสถานะนะครับ
       ในฐานะของผู้ปกครองอาจจะคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรที่นักเรียนจะพกโทรศัพท์มือถือไปโรงเรียน เพราะง่ายต่อการติดต่อกับผู้ปกครอง หรือไม่ก็อยู่ที่มาตรการของโรงเีรียนที่จะจัดการกับนักเรียนที่ไม่รู้เวร่ำ เวลาในการใช้้โทรศัพท์ นักเรียนใช้โทรศัพท์ขณะเรียน ก็หักคะแนนสิ ทำโทษสิ เรื่องแค่นี้ไม่มี.....จัดการรึไง?
      แต่ถ้ามองกลับกัน ถ้าท่านเป็นครู คนที่เป็นครูจะรู้ดีว่าเวลาที่สอนนักเรียน ถ้านักเรียนพกโทรศัพท์มาเรียนด้วย ปัญหาที่ตามมามันมีมากมายครับ ไม่ว่าจะนำโทรศัพท์มาเล่นขณะเรียน เล่นเกมส์มั่งล่ะ แชทมั่งล่ะ ถ่ายรูปมั่งหละ แล้วท่านคิดว่านักเรียนเหล่านั้นจะเรียนรู้เรื่องหรือครับ นอกเหนือจากนั้นสื่อต่างๆที่มันไม่ดีที่มันมากับเทคโนโลยี ไม่ว่าจะคลิปโป๊ การถ่ายคลิปเวลาตบตีกันแล้วเอาไปเผยแพร่ให้คนอื่นดู ท่านคิดว่ามันสมควรหรือไม่ แม้แต่นักศึกษาในมหาวิทยาลัยบางคนยังแยกแยะไม่ออกเลยครับ  เพราะฉะนั้น เด็กก็คือเด็กนะครับเขาไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมาหรอกครับ เขาอยู่ในวัยคึกคะนอง อยากทำไรก็ทำ เพื่อให้เป็นที่สนใจของเพื่อน ๆ
      การที่ไม่ให้นักเรียนนำโทรศัพท์มือถือไปโรงเรียนก็ถือว่าเป็นการป้องกันเรื่องเหล่านี้ได้ส่วนหนึ่งครับ ถึงแม้ว่าจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตาม แต่ก็ถือว่าป้องกันได้ดีในระดับหนึ่ง เพราะเวลาที่เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นมา สังคมมักจะมองโรงเรียนว่าผิดเสมอ อยากให้ย้อนกลับไปถึงผู้ปกครองด้วยครับว่าท่านดูแลลูกหลานท่านดีหรือยัง ถ้ามัวแต่โทษกันไปมามันก็ไม่มีที่สิ้นสุดหรอกครับ ควรจะช่วยกันดูแลเขาให้ดี ดีกว่าครับ

+10000000000000000000000 ต้องช่วยกันดูแลคะ เพราะเค้าสำคัญกับพวกเรา เราถึงต้องช่วยกันดูแล
เด็กก็คือเด็ก เอาเกมยื่นให้เค้าก็รับไปเล่น เอาขนมยื่นให้เค้าก็รับไปกิน อยู่ที่เราเลือกจะหยิบยื่นให้เค้าตอนไหนเมื่อไหร่มากกว่า

[shiff2007]

มันคงจะเป็นความคิดในแต่ละมุมมอง ของคนต่างสถานะนะครับ
       ในฐานะของผู้ปกครองอาจจะคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรที่นักเรียนจะพกโทรศัพท์มือถือไปโรงเรียน เพราะง่ายต่อการติดต่อกับผู้ปกครอง หรือไม่ก็อยู่ที่มาตรการของโรงเีรียนที่จะจัดการกับนักเรียนที่ไม่รู้เวร่ำ เวลาในการใช้้โทรศัพท์ นักเรียนใช้โทรศัพท์ขณะเรียน ก็หักคะแนนสิ ทำโทษสิ เรื่องแค่นี้ไม่มี.....จัดการรึไง?
      แต่ถ้ามองกลับกัน ถ้าท่านเป็นครู คนที่เป็นครูจะรู้ดีว่าเวลาที่สอนนักเรียน ถ้านักเรียนพกโทรศัพท์มาเรียนด้วย ปัญหาที่ตามมามันมีมากมายครับ ไม่ว่าจะนำโทรศัพท์มาเล่นขณะเรียน เล่นเกมส์มั่งล่ะ แชทมั่งล่ะ ถ่ายรูปมั่งหละ แล้วท่านคิดว่านักเรียนเหล่านั้นจะเรียนรู้เรื่องหรือครับ นอกเหนือจากนั้นสื่อต่างๆที่มันไม่ดีที่มันมากับเทคโนโลยี ไม่ว่าจะคลิปโป๊ การถ่ายคลิปเวลาตบตีกันแล้วเอาไปเผยแพร่ให้คนอื่นดู ท่านคิดว่ามันสมควรหรือไม่ แม้แต่นักศึกษาในมหาวิทยาลัยบางคนยังแยกแยะไม่ออกเลยครับ  เพราะฉะนั้น เด็กก็คือเด็กนะครับเขาไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมาหรอกครับ เขาอยู่ในวัยคึกคะนอง อยากทำไรก็ทำ เพื่อให้เป็นที่สนใจของเพื่อน ๆ
      การที่ไม่ให้นักเรียนนำโทรศัพท์มือถือไปโรงเรียนก็ถือว่าเป็นการป้องกันเรื่องเหล่านี้ได้ส่วนหนึ่งครับ ถึงแม้ว่าจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตาม แต่ก็ถือว่าป้องกันได้ดีในระดับหนึ่ง เพราะเวลาที่เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นมา สังคมมักจะมองโรงเรียนว่าผิดเสมอ อยากให้ย้อนกลับไปถึงผู้ปกครองด้วยครับว่าท่านดูแลลูกหลานท่านดีหรือยัง ถ้ามัวแต่โทษกันไปมามันก็ไม่มีที่สิ้นสุดหรอกครับ ควรจะช่วยกันดูแลเขาให้ดี ดีกว่าครับ

เห็นด้วยกับท่านนะครับ

ส่วนท่านที่คิดว่า นักเรียนเอาโทรศัพท์มือถือไปโรงเรียนเป็นประโยชน์ในการที่เด็กสามารถใช้ติดต่อกับผู้ปกครอง นั้น
ขอสักคำถามเถอะว่า... โดยปกติ ท่านผู้ปกครองโทร.หาลูกที่โรงเรียนวันละกี่ครั้ง และเด็กโทร.หาผู้ปกครองวันละกี่ครั้ง
และมีกี่ครั้งที่ท่านผู้ปกครองโทร.ไปหาแล้วเด็กรับทันที...หากเหตุผลบอกว่า เพื่อให้ผู้ปกครองติดต่อกับนักเรียนได้จริง ไม่ใช่ข้ออ้าง

ขอเสนอแนะทางออกเรื่องนี้ แบบนี้ ดีไหม...
ให้โรงเรียนอนุญาตให้นักเรียนมาโรงเรียนได้ โดยต้องปฏิบัติดังนี้
1. เปิดภาคเรียนให้ผู้ปกครองมาลงชื่อรับรองว่า มีความจำเป็นต้องให้บุตรหลานนำโทรศัพท์มาโรงเรียน
(คำรับรองนี้มีผลเฉพาะภาคเรียนนั้นๆ เท่านั้น)
2. ให้ผู้ปกครองและนักเรียนลงชื่อรับทราบในการถือปฏิบัติตามข้อปฏิบัติ คือ
2.1 เมื่อมาถึงโรงเรียน ให้นำโทรศัพท์ไปฝากไว้ที่ครูที่ปรึกษาทันที
2.2 ห้ามนำโทรศัพท์ไปใช้ในห้องเรียนโดยเด็ดขาด
2.3 เมื่อผู้ปกครองโทร.ไปหาเด็ก ครูที่ปรึกษาจะเชิญให้เด็กมารับโทรศัพท์ต่อหน้าครู
2.4 เมื่อได้เวลาเลิกเรียน ให้เด็กไปรับโทรศัพท์คืนได้จากครูที่ปรึกษา
2.5 หากนักเรียนฝ่าฝืนข้อปฏิบัตินี้ ให้ยึดโทรศัพท์และนำไปฝากเก็บไว้ที่ผู้อำนวยการโรงเรียน
2.6 ให้ผู้ปกครองนำนักเรียนไปขอรับโทรศัพท์คืนได้ด้วยตนเองที่ผู้อำนวยการโรงเรียน และลงชื่อรับทราบการฝ่าฝืน
2.7 มาตรการลงโทษ
(1) ครั้งที่ 1 ยึดโทรศัพท์ไว้ 1 สัปดาห์ หักคะแนน 5 คะแนน
(2) ครั้งที่ 2 ยึดโทรศัพท์ไว้ 1 เดือน หักคะแนน 10 คะแนน
(3) ครั้งที่ 3 ยึดโทรศัพท์ไว้ 1 ภาคเรียน หักคะแนน 20 คะแนน

หรือโรงเรียนอาจจะมีการปรับปรุงให้เหมาะสมกับบริบทของโรงเรียน....
เพราะโรงเรียนทำหน้าที่ในการให้การอบรมสั่งสอน ให้ประสบการณ์ และหาแนวทางป้องกันพฤติกรรมไม่เหมาะสม
หรือพฤติกรรมเสี่ยงอันอาจจะเกิดกับลูกหลานของท่าน. อย่าเอาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยธรรมมาใช้ในเรื่องแบบนี้เลย
ประเทศไทย เป็นอยู่แบบที่เห็นๆ ทุกวันนี้ ก็เพราะคิดกันแบบนี้แหละ...

[shiff2007]

มันคงจะเป็นความคิดในแต่ละมุมมอง ของคนต่างสถานะนะครับ
       ในฐานะของผู้ปกครองอาจจะคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรที่นักเรียนจะพกโทรศัพท์มือถือไปโรงเรียน เพราะง่ายต่อการติดต่อกับผู้ปกครอง หรือไม่ก็อยู่ที่มาตรการของโรงเีรียนที่จะจัดการกับนักเรียนที่ไม่รู้เวร่ำ เวลาในการใช้้โทรศัพท์ นักเรียนใช้โทรศัพท์ขณะเรียน ก็หักคะแนนสิ ทำโทษสิ เรื่องแค่นี้ไม่มี.....จัดการรึไง?
      แต่ถ้ามองกลับกัน ถ้าท่านเป็นครู คนที่เป็นครูจะรู้ดีว่าเวลาที่สอนนักเรียน ถ้านักเรียนพกโทรศัพท์มาเรียนด้วย ปัญหาที่ตามมามันมีมากมายครับ ไม่ว่าจะนำโทรศัพท์มาเล่นขณะเรียน เล่นเกมส์มั่งล่ะ แชทมั่งล่ะ ถ่ายรูปมั่งหละ แล้วท่านคิดว่านักเรียนเหล่านั้นจะเรียนรู้เรื่องหรือครับ นอกเหนือจากนั้นสื่อต่างๆที่มันไม่ดีที่มันมากับเทคโนโลยี ไม่ว่าจะคลิปโป๊ การถ่ายคลิปเวลาตบตีกันแล้วเอาไปเผยแพร่ให้คนอื่นดู ท่านคิดว่ามันสมควรหรือไม่ แม้แต่นักศึกษาในมหาวิทยาลัยบางคนยังแยกแยะไม่ออกเลยครับ  เพราะฉะนั้น เด็กก็คือเด็กนะครับเขาไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมาหรอกครับ เขาอยู่ในวัยคึกคะนอง อยากทำไรก็ทำ เพื่อให้เป็นที่สนใจของเพื่อน ๆ
      การที่ไม่ให้นักเรียนนำโทรศัพท์มือถือไปโรงเรียนก็ถือว่าเป็นการป้องกันเรื่องเหล่านี้ได้ส่วนหนึ่งครับ ถึงแม้ว่าจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตาม แต่ก็ถือว่าป้องกันได้ดีในระดับหนึ่ง เพราะเวลาที่เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นมา สังคมมักจะมองโรงเรียนว่าผิดเสมอ อยากให้ย้อนกลับไปถึงผู้ปกครองด้วยครับว่าท่านดูแลลูกหลานท่านดีหรือยัง ถ้ามัวแต่โทษกันไปมามันก็ไม่มีที่สิ้นสุดหรอกครับ ควรจะช่วยกันดูแลเขาให้ดี ดีกว่าครับ

+10000000000000000000000 ต้องช่วยกันดูแลคะ เพราะเค้าสำคัญกับพวกเรา เราถึงต้องช่วยกันดูแล
เด็กก็คือเด็ก เอาเกมยื่นให้เค้าก็รับไปเล่น เอาขนมยื่นให้เค้าก็รับไปกิน อยู่ที่เราเลือกจะหยิบยื่นให้เค้าตอนไหนเมื่อไหร่มากกว่า

วันนี้ว่าง เลยจัดเต็มกะครับ...
เรื่องของเด็ก เรื่องของโรงเรียน
ไม่ฟังครู แล้วจะไปฟังใครที่ไหนกัน...เน๊าะ

อยากให้ลูกหลานมีความรู้ เคียงคู่ไปกับการมีระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบ และมีคุณธรรมจริยธรรม
โปรดอย่าส่งเสริมลูกหลานให้มีพฤติกรรมในทางที่ไม่เหมาะสมเลยครับ...
หากคุณครู ไม่ใส่ใจต่อพฤติกรรมเหล่านั้น คนที่เสียใจจะเป็นพ่อแม่นั่นแหละ

[tonkla]

สำหรับความคิดเห็นส่วนตัว

ไม่ควรให้เด็กนำมือถือไปโรงเรียนครับ สงสารครู ครูหนึ่งคนต้องดูแลเด็ก ๓๐ กว่าคน คงห้ามกันไม่ไหว

ลูกชายผม ม ๔ และ ม ๕ ปีนี้ ก็ยังไม่มือมือถือเป็นของตังเองเลยครับ

[ตะเกียบเดียวเฉี่ยว7ชิ้น]

คงห้ามยาก

แต่ที่สำคัญ พ่อ-แม่ควรเช็คโทรศัพท์ลูกดูด้วยว่ามีคลิป
หรือภาพที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ อย่าแค่สักแต่ซื้อให้ แล้วก็ปล่อยเลยตามเลย