เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 29 มีนาคม 2024, 01:23:53
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  การเกษตร,ฟาร์มสัตว์,ปศุสัตว์ (ผู้ดูแล: bm farm)
| | |-+  เมล่อนหลังบ้าน
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 [2] พิมพ์
ผู้เขียน เมล่อนหลังบ้าน  (อ่าน 4385 ครั้ง)
Number9
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,760



« ตอบ #20 เมื่อ: วันที่ 21 เมษายน 2016, 16:04:02 »

ขอบคุณครับ  เชื่อว่าทุกคนปลูกได้ครับ อยู่ที่การเอาใจใส่ ไม่ว่าเราจะทำอะไรถ้ามีเวลา และเอาใจใส่ต่อสิ่งที่เราสนใจ เชื่อว่าทุกคนทำได้ครับ  ผมเองไม่เคยปลูกพืชตัวนี้มาก่อน ก็ใช้วิธีการศึกษาเอา อินเตอร์เน็ตคือห้องสมุดขนาดใหญ่ มีความรู้มากมายอยู่ในนี้ อยู่ที่ว่าเราจะรับไว้หรือไม่เท่านั้นเอง  ยิ่งการปลูกพืชไว้ทานเอง นอกจากจะปลอดภัย และอร่อยแล้ว เรายังมีความภาคภูมิใจในสิ่งที่เราสร้างมันขึ้นมาครับ

IP : บันทึกการเข้า
EAAY
midafXD
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,233



« ตอบ #21 เมื่อ: วันที่ 24 เมษายน 2016, 15:40:08 »

ผมเพาะครั้งแรก 10 ต้น พองอกมาได้สัก 2 ใบ ต้นเริ่มเน่าทีละต้น
พอดูชัดๆ ก็เห็นรูเจาะต้นครับ
แกะต้นดูจึงพบว่า โดนหนอนเจาะต้น จำใจตัดยอดทิ้งหมด
ยังดีที่ตรงใบเลี้ยงยังมียอดโผล่มา4ต้น จึงต้องประคบประหงมหน่อย
ตอนนี้มีลูก1ต้น เพราะช่วงสงกรานต์กลับพะเยาไม่ได้รดน้ำ
ดอกเหี่ยวหมดเลย
เดี๋ยวรอ รอบสองคงต้องดูแลให้มากกว่านี้ครับ
IP : บันทึกการเข้า

arintorn
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 107


« ตอบ #22 เมื่อ: วันที่ 25 เมษายน 2016, 09:33:41 »

เมล่อนเป็นพืชที่ค่อนข้างอ่อนแอต่อโรคและแมลง  การปลูกที่ว่ายากน่าจะเป็นเพราะเรื่องนี้  สำหรับแมลงถ้าเราสังเกตมียางสีน้ำตาลไหลออกมาจากลำต้น ให้ใช้ผ้าเช็ดแล้วสังเกตว่ามีหนอนสีขาว ตัวเล็ก ๆอยู่ในนั้นหรือเปล่า ถ้ามีให้แคะออก เป็นตัวอ่อนของแมลงวันทองครับ  สำหรับคนที่ปลูกน้อย และยังไม่ถึงกับต้องเดินสายน้ำหยด ใช้วิธีการตักน้ำรดเอา แนะนำให้หาขวดน้ำขนาด 1 ลิตรขึ้นไป ปิดฝาให้สนิทแล้วเจาะรูที่ฝาพอให้น้ำหยดลงมาได้  หลังจากนั้นตัดก้นขวดเพื่อเติมน้ำหรือปุ๋ยผสมน้ำลงไป  แล้วทดลองคว่ำขวดดู  ถ้ามีน้ำหยดออกมาสม่ำเสมอ  เป็นอันใช้ได้นำไปปักไว้ที่ข้าง ๆ ต้นได้เลยครับ 
IP : บันทึกการเข้า
Cupid
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,941


Experience is the best teacher.


« ตอบ #23 เมื่อ: วันที่ 25 เมษายน 2016, 09:43:58 »


เข้ามาศึกษาหาความรูัครับ ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
arintorn
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 107


« ตอบ #24 เมื่อ: วันที่ 26 เมษายน 2016, 09:26:28 »

        ตัดแล้วครับ TML-222  เมล่อนเนื้อสีส้ม  ชิมแล้วหวานพอได้ครับ 13-15 บริกซ์  ขนาดลูก 1 - 1.4 กก.  อาจจะทำได้ไม่ถึงเจ้าของสายพันธุ์ (เจ้าของเค้าทำได้ 2-3 กก.) แค่นี้ก็พอใจแล้วครับ  รุ่นหน้าหวังว่าขนาดและความหวานจะมากกว่านี้   สำหรับพันธุ์นี้การเจริญเติบโตดีมาก  ใบใหญ่พอ ๆขนาดใบฟักทองเลย 
        สำหรับการปลูกรุ่นนี้ผมทดลองผสมปุ๋ยใช้เอง  ถ้าพูดถึงการเจริญเติบโตของเมล่อนถือว่าดีครับ  แต่มีปัญหาเรื่องตะกอนของปุ๋ย  ที่มีบางตัวไม่สามารถผสมกับตัวอื่นได้  ทำให้หัวน้ำหยดตันบ่อย  ต้องคอยเช็คทุกวัน  (ทำให้เสียเวลาพอสมควร)  คิดว่ารุ่นที่ 4  จะลองเปลี่ยนมาใช้ปุ๋ยเกร็ดที่ขายตามท้องตลาดเอา  เพราะปุ๋ยพวกนี้ใช้สำหรับพ่นอยู่แล้ว ปัญหาการตกตะกอนน่าจะน้อยลง


IP : บันทึกการเข้า
oldpeak
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 100


« ตอบ #25 เมื่อ: วันที่ 29 เมษายน 2016, 11:31:47 »

ขอถามส่วนผสมของดินที่ใส่ในถุงหน่อยครับและขนาดของถุงที่ใช้ด้วยครับ   กำลังเริ่มศึกษาครับ   ตอนนี้ไปเที่ยวหาเมล็ดพันธ์ตามร้านขายอยู่ไม่มีเลยครับ
IP : บันทึกการเข้า
arintorn
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 107


« ตอบ #26 เมื่อ: วันที่ 29 เมษายน 2016, 11:42:54 »

ถุงที่ใช้เป็นถุงขาวครับ ขนาด 14 x 14 นิ้วครับ  ส่วนวัสดุที่ใช้ปลูกเราสามารถดัดแปลงตามวัสดุพื้นบ้านที่เรามีก็ได้ครับ  ( โดยหลักการแล้วแค่พยุงรากกับลำต้น)  ที่สวนผมใช้ขุยมะพร้าว + กาบมะพร้าวสับเล็ก 1:1  หรือจะใช้ขุยมะพร้าว + แกลบดิบก็ได้เหมือนกัน  บางสวนใช้เพียงแกลบดำอย่างเดียวก็ได้ครับ  หรือถ้ามีขี้เลื่อยก็ได้เหมือนกัน  สำหรับเมล็ดผมสั่งจากในเน็ต ถ้าหาตามร้านไม่ได้จะขอซื้อแบ่งก็ยินดีครับ  ตอนนี้ยังมีอยู่เพราะยังเตรียมการปลูกรอบที่ 4 ครับ 
IP : บันทึกการเข้า
oldpeak
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 100


« ตอบ #27 เมื่อ: วันที่ 29 เมษายน 2016, 11:55:44 »

ขอบคุณมากครับ  สำหรับเมล็ดพันธุ์ถ้าซื้อในเน๊ตขอความอนุเคราะห์ web หน่อยครับ   ถ้าไม่ได้คงต้องรบกวนในโอกาสหน้าครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 29 เมษายน 2016, 12:08:30 โดย oldpeak » IP : บันทึกการเข้า
arintorn
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 107


« ตอบ #28 เมื่อ: วันที่ 29 เมษายน 2016, 12:08:18 »

เพื่อเป็นวิทยาทานสำหรับผู้ที่สนใจปลูกเมล่อนนะครับ  ผมจะขอรีวิวการปลูกที่สวนผม เพื่อเป็นแนวทางให้คนที่สนใจนำไปปรับใช้นะครับ  สำหรับผมเมล่อนเป็นไม้ใหม่ที่ผมไม่เคยปลูกหรือมีความรู้ใด ๆ เลย อาศัยค้นหาข้อมูลจากในเน็ตแล้วทำการทดลองปลูก เจอปัญหาบ้าง  ดีบ้าง ต้องปรับแก้หลายอย่างครับ   ซึ่งผมคิดว่าแต่ละคนอาจจะเจอปัญหาที่ไม่เหมือนกันเลย ขึ้นอยู่กับพื้นที่และการดูแลของแต่ละคน  ครั้งแรกที่ปลูกอาศัยเก็บเมล็ดจากที่ซื้อมากิน  ผลปรากฏว่าไม่ได้ผล  ลักษณะผลมีหลายรูปร่าง รสชาติก็ไม่หวานเอาเสียเลย  ( ส่วนหนึ่งเพราะเมล่อนจะเป็น F1 ลูกผสมชั่วเดียวครับ ) คือถ้าเราเอาเมล็ดไปปลูกต่อ มันจะไม่เหมือนกับที่เราซื้อมากินเลย หรือถ้าเหมือนก็น้อยมาก หลังจากนั้นรอบ  2  จึงหาซื้อเมล็ดพันธุ์ตามร้านค้ามาปลูกใหม่  ขั้นตอนการเพาะเมล็ดและการปลูกตามภาพครับ






IP : บันทึกการเข้า
oldpeak
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 100


« ตอบ #29 เมื่อ: วันที่ 29 เมษายน 2016, 12:19:02 »

วัสดุเพาะใช้แกลบดำหรือพีมอสครับ   แล้วหัวน้ำหยดเป็นแบบใหนครับ   ถามไว้ก่อนครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 29 เมษายน 2016, 12:27:18 โดย oldpeak » IP : บันทึกการเข้า
arintorn
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 107


« ตอบ #30 เมื่อ: วันที่ 29 เมษายน 2016, 14:09:48 »

สำหรับวัสดุเพาะกล้า ผมใช้พีทมอสครับ เพราะไม่ต้องใส่ปุ๋ยเพิ่มในระยะ 10 วันที่อยู่ในถาดเพาะ และลดปัญหาการเน่าของต้นกล้า  สำหรับหัวน้ำหยดนั้น แนะนะให้ใช้แบบหัวปรับแรงดัน ขนาด 2 ลิตรต่อชั่วโมง  ราคาตัวละ 4 บาทครับถ้าสามารถเลือกยี่ห้อได้ใช้ของเนตาฟีม ก็ดีครับ  ที่สวนผมปลูกไม่มาก ไม่ได้ใช้ปั๊ม ใช้ยกถังสูงจากพื้นประมาณ 1 เมตรแล้วปล่อยน้ำลงเอาครับ
IP : บันทึกการเข้า
arintorn
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 107


« ตอบ #31 เมื่อ: วันที่ 03 พฤษภาคม 2016, 14:00:16 »

ต่อครับ  สำหรับขั้นตอนการเพาะต้นกล้านั้น มีความสำคัญมากครับ เมล่อนจะโตเร็วหรือช้าการเพาะกล้าเป็นปัจจัยแรกที่เราควรใส่ใจครับ  วิธีการเพาะเมล็ดครับ
         1.แช่เมล็ดในน้ำอุ่น  ประมาณ 3-4 ชั่วโมง หรือจนกว่าเมล็ดที่ลอยอยู่จะจมน้ำ ( เปลือกเมล่อนจะนิ่มลงทำให้งอกง่ายขึ้น)
         2.หาภาชนะโปร่งแสงชนิดมีฝาปิด  รองด้วยกระดาษทิชชู่  พรมน้ำเล็กน้อยพอชื้น  นำเมล็ดเมล่อนวางลงไป เกลี่ยให้เมล็ดกระจายทั่วภาชนะ และปิดฝา  นำไปไว้ในที่ร่ม  ประมาณ 24  ชั่วโมง จะมีรากขาว ๆ แทงออกมาจากด้านแหลมของเมล็ด
         3.นำพีทมอสใส่ถามหลุม (ผมใช้ขนาด 104 หลุม) พรมน้ำเล็กน้อย  เจาะรูระหว่างหลุมให้พอหยอดเมล็ดลงไปได้  ใช้คีมคีบเมล็ดโดยให้เอาปลายแหลมของเมล็ด (ที่มีรากสีขาวโผล่ออกมา) หยอดลงไปในหลุม ไม่ต้องลึกมาก ขั้นตอนนี้สำคัญมาก ระวังรากเมล่อนหักด้วยครับ  หลังจากหยอดเมล็ดเสร็จแล้ว  พรมน้ำแล้วนำถาดไปรับแสงอ่อน ๆ ก่อนครับ
         4.หลังจากเมล็ดโผล่พ้นวัสดุเพาะมา เป็นใบเลี้ยงคู่  ให้นำไปตากแดดจัดเลยครับ  ถ้าช้าต้นเมล่อนจะยืดและอ่อนแอ  การดูและช่วงนี้ให้รดน้ำพอชุ่ม  อย่าให้วัสดุเพาะแห้ง  ถ้าใช้พีทมอสไม่ต้องใส่ปุ๋ยใด ๆ  แต่ถ้าเป็นดินที่ผสมเองอาจใช้ปุ๋ย 15-0-0 ผสมน้ำรดได้ครับ (ใช้ปุ๋ยอัตราไม่เกิน 100 กรัม ต่อน้ำเปล่า 20  ลิตร)
         5. หลังจากเพาะได้ 10- 12 วัน (มีใบจริง 1 ใบ) ก็สามารถย้ายลงปลูกในแปลงได้ครับ
IP : บันทึกการเข้า
0440
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 490


ชีวิตมันสั้น เกินกว่าจะไล่ตาม "คนที่เขาไม่มองเรา"


« ตอบ #32 เมื่อ: วันที่ 07 พฤษภาคม 2016, 11:24:10 »

ขออนุญาตเจ้าของกระทู้ การป้องกันแมลง จากประสบการณ์ผม
1. ใช้กับดักกาวเหนียว แผ่นสีเหลือง วิธีทำ ทากาวปักรอบๆ

2. ใช้น้ำส้มควันไม้ วิธีทำ นำขวดน้ำดื่มใช้แล้ว ขวดเล็กๆ มาเจาะรูประมาณ 1 ซม. ตั้งแต่กลางขวดถึงปากขวด หลายๆ รู  ครึ่งขวดด้านล่างไม่ต้องเจาะ เทน้ำส้มควันไม้ใส่ไปประมาณ 1- 2 นิ้ว ปิดฝา นำไปแขวนไว้ กลิ่นน้ำส้มควันไม้ขับไล่แมลง

3. ใช้ลูกเหม็น วิธี นำลูกเหม็นมาใส่ถุงๆ ละ 3-5 ลูก เจาะรูประมาณ 1 ซม. รอบถุง รัดปากถุงแล้วนำไปแขวนไว้ (เมื่อได้รับความร้อนความเป็นพิษของลูกเหม็นจะระเหยออกไปเอง เหลือไว้แค่กลิ่นที่ไล่แมลง

4.  สามารถใช้ยาจุดกันยุง (ซื้อแบบหลอดใหญ่ๆ จะประหยัดกว่ากล่องเล็กๆ)  จุดช่วงพลบค่ำ
     ... เทคนิคในฤดูฝน
    - นำแกลลอนพลาสติกที่ไม่ใช้แล้ว หรืออะไรก็ได้ที่ใหญ่กว่าขนาดของยากันยุงมาตัดครึ่ง (ไม่ใช่ผ่านะครับ) จะได้ออกมาสองชิ้น 
    - ให้เจาะรูเล็กๆ ตรงก้นแกลลอนสำหรับสอดลวด  พลิกแกลลอนคว่ำลงสอดลวด งอปลายลวดที่โผล่ออกมาเป็นตะขอสำหรับเกี่ยวยากันยุง
    - นำไปแขวนสูงประมาณ 30 ซม. จุดยากันยุงช่วงพลบค่ำ (ต้นลม)
ป้องกันแมลง ผีเสื้อ ฯลฯ ที่จะมาวางไข่ตอนกลางคืนได้ 4-6 ชม.
ไม่จำเป็นต้องจุดทุกวัน เพราะกลิ่นยากันยุงจะตกค้างหลายวัน พอกลิ่นจาง ก็จุดใหม่

หวังว่าคงเป็นประโยชน์นะครับ
IP : บันทึกการเข้า

ID Line : n0804988255
MR.Tos pangnoja
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 372


« ตอบ #33 เมื่อ: วันที่ 09 พฤษภาคม 2016, 14:51:17 »

 ยิ้ม คำถามฮอตฮิต ปลูกมาแล้วจะเอาไปขายที่ไหนกันดี  ผมก็ทดลองปลูก50ต้น ปลุกลงดินก็มีปลูกลงกระถังก็มี  ปลุกลงดินลูกจะโตเกือบ2โล มันจะชอบปุ๋ยขี้ไก่บ้านครับ ความหวานไม่ทราบว่าเท่าไหร่ แต่ก็โอเคน่ะกินอะร่อยพอใช้ได้
IP : บันทึกการเข้า
ssaaming
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23


« ตอบ #34 เมื่อ: วันที่ 09 พฤษภาคม 2016, 15:34:29 »

สงสัยเรื่องการให้น้ำ ปุ๋ย ตั้งเวลาการให้ไหมครับ หรือ ให้หยดตลอด
IP : บันทึกการเข้า
arintorn
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 107


« ตอบ #35 เมื่อ: วันที่ 13 พฤษภาคม 2016, 13:50:04 »

       สำหรับเรื่องการปลูกแล้วจะเอาไปขายที่ไหน  เป็นคำถามที่ควรคำนึงถึงตลอดเวลาที่จะลงทุนปลูกอะไร  เมล่อนเป็นพืชที่กำลังได้รับความนิยม ถ้าปลูกไม่มากขายแถวบ้านก็หมดครับ รสชาติก็ดีกว่าแคนตาลูปที่ปลูกกันอยู่แล้ว  จุดขายคือแปลกใหม่กว่า ถ้ามีการเพิ่มลวดลาย ก็สามารถเพิ่มมูลค่าได้อีก   แต่ถ้าคิดจะลงทุนปลูกจำนวนมาก ควรมีการติดต่อตลาดค้าส่ง ถ้าเชียงรายก็นำสวัสดิ์ เป็นต้นครับ  เพื่อกระจายสินค้าของเราในเวลาที่รวดเร็ว เมล่อนถ้าสุกจะใกล้เคียงกันครับ
      สำหรับการให้น้ำเมล่อนนั้น ให้ตามการเติบโตของต้นครับ  ช่วงเล็ก ๆ กินน้ำไม่เยอะให้ 1 ครั้งต่อวันก็อยู่ได้  แต่เมื่อเริ่มโตมากขึ้นควรเพิ่มเป็นเช้า - เย็น  ประมาณครั้งละ 0.5 ลิตร  ถ้าโตจนถึงช่วงติดลูกอาจต้องเพิ่มปริมาณน้ำเป็น 1-2 ลิตรครับ  (ทั้งนี้การให้น้ำมันขึ้นกับปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน เช่น ความชื้นสัมพัทธ์  วัสดุปลูก  อุณหภูมิ  เป็นต้นครับ  วิธีการง่าย ๆ คือการสังเกตครับ  สำหรับที่สวนผม ใช้การเจาะรูที่ถุงสูงจากพื้นมาประมาณ 2 นิ้ว  ถ้าปล่อยน้ำจนถึงจุดที่มีรู น้ำเริ่มไหลออกมาก็หยุดให้ครับ  ไม่ตายตัวครับ (ถุงที่ใช้ปลูกเป็นถุงขาว ไม่เจาะรู เราต้องเจาะเองครับ)

IP : บันทึกการเข้า
oldpeak
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 100


« ตอบ #36 เมื่อ: วันที่ 11 มิถุนายน 2016, 11:11:28 »

อยากทราบความต้องการแสงของเมล่อนครับว่ามากน้อยขนาดใหนครับ
IP : บันทึกการเข้า
arintorn
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 107


« ตอบ #37 เมื่อ: วันที่ 13 มิถุนายน 2016, 10:01:50 »

สำหรับแสง  เมล่อนเป็นพืชที่ต้องการแสงมาก  จากการปลูกที่พบนะครับ  ต้นที่ได้แสงเต็มที่ ใบจะใหญ่ ข้อสมบูรณ์  ส่วนต้นที่ได้แสงน้อยก้านจะยืด ลูกเล็กกว่า สรุปคือปลูกกลางแจ้งดีที่สุดครับ  ช่วงฤดูฝนนี้ปัญหาเรื่องแสงก็มีบ้าง  และปัญหาอีกอย่างที่พบคือความชื้นที่มาก  มักจะเจอปัญหาเชื้อราทำให้ต้นเน่าได้  การป้องกันที่ผมใช้คือใช้เชื้อราไตรโคเดอมา ป้องกันก่อนครับ
IP : บันทึกการเข้า
oldpeak
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 100


« ตอบ #38 เมื่อ: วันที่ 13 มิถุนายน 2016, 12:57:06 »

ขอบคุณกับความรู้ใหม่ๆครับ
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!