ปัจจุบันด้วยคุณสมบัติในการสมัครบัตรเครดิตที่เข้าถึงกลุ่มคนทำงานได้ง่ายขึ้น ทำให้หลายคนมีบัตรเครดิตไว้ใช้งานได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น และการใช้งานที่ขาดความรู้ ไม่ได้ทำความเข้าใจเรื่องของอัตราดอกเบี้ย ช่วงเวลาที่ต้องชำระค่าบัตรเครดิต ทำให้เกิดภาวะ
ติดหนี้บัตรเครดิตซึ่งก็เกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งการมีบัตรเครดิตหลายใบและใช้จนเต็มวงเงิน ก็จะหนักเรื่องการชำระเงินต้นกับภาระดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายให้กับทุกบัตรหากขาดการชำระหนี้เพียงใบเดียวก็ถือว่าเป็นหนี้บัตรเครดิตไปแล้ว
ติดหนี้บัตรเครดิต อยากปิดหนี้ไว ๆ ต้องทำอย่างไร สำหรับคนที่ต้องการจะเคลียร์ปัญหาเรื่องหนี้บัตรเครดิตให้หมดไปก็มีวิธีแก้มากมาย ขึ้นอยู่กับความตั้งใจและยอมที่จะตัดเรื่องบัตรเครดิตออกไปจากชีวิตได้ไหม ซึ่งการติดหนี้บัตรเครดิตส่งผลเสียให้กับหลายคนทำให้เสียประวัติเครดิตบูโร และเมื่อต้องการที่จะขอสินเชื่อเช่ารถ หรือสินเชื่อบ้านก็จะไม่สามารถได้รับการอนุมัติได้ ดังนั้นจึงมีวิธีมาแนะนำสำหรับการแก้ไขภาวะติดหนี้บัตรเครดิตให้หมดได้ไว ๆ
1.รวมหนี้บัตรเครดิตทุกใบให้เป็นหนี้ก่อนเดียว โดยจะต้องเข้าไปเจรจากับธนาคาร จะเป็นธนาคารใดก็ได้โดยพิจารณาจากเงื่อนไข อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาการผ่อนชำระ ซึ่งจะช่วยให้สามารถชำระคืนได้ง่าย และช่วยให้รายจ่ายเบาลง สามารถจ่ายเงินต้นได้เพิ่มมากขึ้น และหากมีเงินก้อน เงินโบนัสก็นำไปปิดหนี้ได้เร็วขึ้น
2.หากติดหนี้บัตรเครดิตและต้องการจะยกเลิกบัตรเครดิต ก็จำเป็นต้องชำระหนี้ทั้งหมดก่อนซึ่งก็จำเป็นต้องใช้เงินก้อน หากมีเงินเก็บก็นำไปปิดได้ทันทีและยกเลิกบัตรได้เลย แต่หากไม่มีเงินก้อนก็ต้องยอมนำของมีค่า เช่น สร้อยคอทองคำ กระเป๋าแบรนด์เนม ไปขายเพื่อให้ได้เงินมาปิดบัตร ซึ่งก็จะได้ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยให้กับธนาคารทุกเดือน
3.ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น หรือปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ จากเดิมที่มักออกไปทานข้าวนอกบ้านสัปดาห์ละครั้งก็ให้เหลือเพียงเดือนละครั้ง งดซื้อของแบรนด์เนม งดท่องเที่ยวต่างประเทศ เพื่อให้ได้มีเงินสำหรับนำไปปิดหนี้บัตรเครดิตให้หมดได้เร็วขึ้น ยิ่งจ่ายเงินต้นได้มากเท่าไหร่ก็จะช่วยลดอัตราดอกเบี้ยให้น้อยลง เงินต้นก็จะหมดเร็ว
4.ไม่หาภาระหนี้เพิ่ม ยกเว้นกรณีที่จำเป็นจริง ๆ พยายามรวบรวมเงินมาปิดหนี้ทั้งหมดให้เร็วที่สุด เพราะกรณีที่ติดหนี้บัตรเครดิตหรือจ่ายขั้นต่ำ ก็จะยิ่งเพิ่มภาระเรื่องดอกเบี้ย ดังนั้นสิ่งแรกที่ต้องโฟกัสก็คือ อย่าเพิ่งนำเงินไปซื้อสิ่งของที่อยากได้ แต่ให้นำไปชำระหนี้บัตรเครดิตและปิดบัตรก่อน เพื่อลดปัญหาสร้างหนี้ใหม่ และหมดปัญหาเรื่องค่าธรรมเนียมรายปี ที่ไม่จำเป็นอีกด้วย
ติดหนี้บัตรเครดิต ไม่อยากเสียประวัติจะมีทางแก้ปัญหาอย่างไรบ้าง สำหรับคนที่มีบัตรเครดิตและยังมีหนี้บัตรเครดิตที่ยังต้องผ่อนชำระอยู่ในแต่ละเดือน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต ที่อาจจะทำให้ไม่สามารถจ่ายคืนได้อย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นติดหนี้บัตรเครดิตซึ่งจะส่งผลให้มีประวัติเสียได้ จึงมีข้อแนะนำที่อยากให้ลองนำไปใช้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้บัตรเครดิตให้เกิดประโยชน์และไม่เป็นการใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย
1. ปิดบัตรที่ไม่ได้ใช้หลายคนที่ชอบสะสมหรืออยากมีบัตรเครดิตไว้หลาย ๆ ใบถึงแม้ว่าจะมั่นใจว่าสามารถควบคุมการใช้งานได้ เพื่อหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมรายปี แต่เชื่อเถอะว่าเมื่อมีการใช้งานซื้อสิ่งของที่ตนเองชอบได้อย่างใจ ก็ต้องมีการนำบัตรแต่ละใบออกมาใช้จนครบอย่างแน่นอน ดังนั้น เพื่อลดปัญหาหนี้บัตรเครดิต ซึ่งในช่วงแรกอาจจะควบคุมได้ แต่หากต้องจ่ายดอกเบี้ยบัตรหลาย ๆ ใบพร้อมกันก็ต้องมีสะดุดบ้าง แล้วก็จะเริ่มหาทางแก้ปัญหาแบบผิด ๆ ที่ทำให้เกิดปัญหาบานปลายจนกลายเป็นติดหนี้บัตรเครดิตได้ ที่ไม่รู้ว่าจะจ่ายบัตรไหนก่อน จึงแนะนำว่าควรจะปิดบัตรที่ไม่ได้ใช้งาน เพราะถือไว้ถึงแม้ไม่ได้ใช้ก็จะมีค่าธรรมเนียมรายปี
2. แจกแจงค่าใช้จ่ายรายเดือนของตัวเองการทำรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้เป็นระบบระเบียบ หรือทำเป็นบัญชีรายรับ-รายจ่าย โดยเฉพาะคนที่ไม่สามารถควบคุมรายจ่ายได้ ควรต้องทำอย่างยิ่ง เพื่อหาต้นสายปลายเหตุว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างที่เกินจากความเป็นจริง และจะทำให้รู้ว่าภาระหนี้ที่เกิดขึ้น ทั้งจากหนี้บัตรเครดิต และหนี้จากด้านอื่น ๆ มีอะไรบ้าง และจะหาทางลดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็นอย่างไร เช่น ค่าไฟที่สูงกว่าปกติเกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง เปิดไฟทิ้งไว้หรือไม่ เปิดคอมพิวเตอร์แล้วไม่ปิด ไม่ถอดปลั๊ก ซึ่งสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆเหล่านี้สามารถช่วยเซฟค่าใช้จ่ายได้ และทำให้มีเงินเหลือเพิ่มมากขึ้น เพื่อที่จะนำไปชำระหนี้บัตรเครดิตได้เพิ่มขึ้นอีก
3. จ่ายให้มากกว่าขั้นต่ำเรื่องการชำระหนี้บัตรเครดิต จุดเด่นของบัตรเครดิตที่หลายคนมักใช้บริการกันมากก็คือการชำระขั้นต่ำ ซึ่งถือว่าเป็นดาบสองคม หลายคนที่มักชำระหนี้แบบขั้นต่ำมักได้รับความสบายใจในขั้นหนึ่ง แต่หากพิจารณาแล้วจะทำให้รู้ได้ว่า การชำระขั้นต่ำนั้นแทบจะไม่ได้จ่ายเงินต้นเลย เป็นเพียงการจ่ายดอกเบี้ยให้กับบัตรเพื่อไม่ให้เสียเครดิตเท่านั้น แล้วถ้าหากมีบัตรเครดิตหลายใบ ต่อเดือนต้องจ่ายดอกเบี้ยเท่าไหร่ ดังนั้น แนะนำว่าไม่ควรที่จะชำระเพียงขั้นต่ำ แต่ต้องจ่ายให้มากกว่าและพยายามที่จะจ่ายเพิ่มขึ้นให้เงินต้นลดลงอย่างรวดเร็ว หรือทยอยจ่ายปิดไปทีละบัตรจนกว่าจะครบและหากไม่ต้องการให้มีการนำออกมาใช้อีกก็ปิดบัตรไป เพื่อไม่ให้มีการนำมาใช้เป็นการเพิ่มภาระหนี้ขึ้นอีก
4. มีเงินก้อนให้รีบโปะหากไม่อยากติดหนี้บัตรเครดิต สิ่งที่ต้องทำก็คือเมื่อมีเงินก้อนต้องนำไปปิดหรือโปะหนี้บัตรเครดิตให้หมดไว ๆ เพื่อไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นทุกเดือน เป็นหนี้บัตรเครดิตที่ทุกคนสามารถควบคุมได้ หากทุกคนรู้ว่าหลักการของการคิดอัตราดอกเบี้ยในแต่ละเดือนเป็นอย่างไร ถึงแม้ว่าจะมีช่วงเวลาการปลอดดอกเบี้ย 45-55 วันของบัตรเครดิตแต่ละประเภท แต่ก็เชื่อได้ว่าหลายคนก็ต้องรอเงินเดือนออกก่อนจึงจะนำไปจ่ายหนี้บัตรเครดิต ซึ่งการโปะปิดหนี้บัตรเครดิตเป็นทางออกที่ทุกคนควรเร่งทำให้เร็วที่สุด
5. เพิ่มการออมเงินสำหรับคนที่ใช้งานบัตรเครดิตจนติดเป็นนิสัย ไม่ว่าจะเป็นการรูดซื้อสินค้าต่าง ๆ ก็ยังรวมไปถึงการจ่ายค่าอาหาร การจ่ายค่าบริการมากมาย ซึ่งหากเทียบยังการจ่ายด้วยเงินสดในตอนนี้กับการชำระหนี้บัตรเครดิตที่มีดอกเบี้ยบวกเพิ่มมาด้วย ทุกคนจะเลือกจ่ายแบบไหน ทั้งที่ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายไปสามารถฝากเข้าบัญชีเพื่อเป็นเงินออมได้ ดังนั้น สิ่งที่ต้องทำก็คือปรับเปลี่ยนมาใช้เงินสดในการซื้อสินค้า และเพิ่มการออมเงินให้มากขึ้น ซึ่งหากทำได้แบบนี้ ทุกคนจะรู้สึกสบายในและเมื่ออยากซื้อของที่ชอบหรืออยากได้ ก็ใช้เงินเก็บเงินออกมาซื้อได้เลย โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต ทำให้ไม่มีภาระดอกเบี้ยไม่ต้องกังวลเรื่องการติดหนี้บัตรเครดิตนั่นเอง
สรุป ติดหนี้บัตรเครดิต ทางแก้ไขที่ทุกคนสามารถทำได้ การติดหนี้บัตรเครดิตมีแต่ข้อเสีย ซึ่งเกิดจากการใช้งานบัตรเครดิตที่ยังไม่มีความรู้เรื่องการเรียกเก็บดอกเบี้ย หรือเงื่อนไขของค่าธรรมเนียมรายปี ที่ทุกคนต้องใช้จ่ายผ่านบัตรให้ได้ตามเงื่อนไขจึงมีโอกาสได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียม และการชำระหนี้บัตรเครดิตล่าช้าก็ยังทำให้มีค่าติดตามทวงถาม และยิ่งไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดก็มีโอกาสทำให้เสียประวัติ และเมื่อต้องการทำธุรกรรมการเงินต่าง ๆ จะไม่สามารถได้รับความไว้วางใจจากสถาบันการเงิน ซึ่งทางที่ดีที่สุดพยายามปิดบัตรที่ไม่ได้ใช้และใช้เงินสดในการซื้อสินค้าต่าง ๆ แทนการใช้บัตรเครดิตนั่นเอง