เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 29 มีนาคม 2024, 13:28:53
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ศาสนา กิจกรรมทางวัด (ผู้ดูแล: ap.41, ลุงหนาน)
| | |-+  ดูอย่างไร ทำบุญจะไม่ได้บาป สอบถามผู้รู้จ้า
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน ดูอย่างไร ทำบุญจะไม่ได้บาป สอบถามผู้รู้จ้า  (อ่าน 856 ครั้ง)
ฆ้อนก้อม
กินยาหมูตุ๊ย มีวิตามิน
สมาชิกลงทะเบียน
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 317


เพราะโลกมันกว้าง เลยต้องใส่ใจคนข้างๆ


« เมื่อ: วันที่ 25 มิถุนายน 2013, 12:59:24 »

 ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า

อารมณ์ดีถ้ามีความสุข
นิ่งให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้
jirapraserd
midafXD
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 691


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 25 มิถุนายน 2013, 14:01:37 »

ช่อง 3 ข่าวตอนเช้า ซื้อเครื่องมือแพทย์
IP : บันทึกการเข้า

สบายแมน
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,485



« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 25 มิถุนายน 2013, 16:29:47 »

ไปอ่านดูเปิ้นก่อบอกไปต่างๆนาๆ แต่อ่านแล้วเมาหัวแทนที่จะได้บุญกลัวบ่าได้มากกว่า
เลยบ่าสนใจ ถ้าคิดว่าทำแล้วดีอยากทำก็ทำไปแค่นั้นนะครับ เคยไปงา่นวัดเปิ้นเลี้ยงโรงทาน เห็นเจ้าของเปิ้นเรียกให้คนมากินฟรี ยิ่งมีคนมากินของเปิ้นเปิ้นยิ่งชอบ แต่ล่ะคนดูยิ้มแย้มอิ่มเอิ่บ บางจ้าวเอามาเสริฟให้ถึงที่ บางจ้าวโฆษณาเชิญชวนซะน่ากิน เปิ้นเห็นคนมากินของที่เปิ้นทำมาแจกเปิ้นก่อดูมีความสุข คนที่ไปร่วมงา่นก่อมีความสุข ม่วนกันแบบนั้นนะก้าครับบุญ ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
JAMESCOM1
ทักทายผมได้นะครับ Line: JAMESCOM007
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,160

สอนคอม & ซ่อม เชียงราย


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 25 มิถุนายน 2013, 18:26:49 »

แม่นแล้วครับ ถ้าทำอะไรแล้วสบายใจ๋ ก็ได้บุญแล้วครับ

ส่วนแอบได้บาปมาตวยอันนี้ตัวใครตัวมันครับ ต้องพิจารณาทำกันเอาเองด้วยปัญญาเน้อ
เช่นถ้าทำให้กับพระทุศีล ก็คือสงเสริมสิ่งบ่อดี ก็ได้บาปตวย ให้เงินให้ทอง ก็ระวังกันหน่อย
ถ้าให้ถูกต้องคือการให้ จะต้องให้ในสิ่งที่ควรให้ และเหมาะสม สมควรแก่เวลาหรือไม เกินไปหรือไม่ ซึ่งจะทำให้พระที่ตระบะอ่อนๆ หลงไปกับกิเลสที่ยื่นให้้ได้ เรานั่นแหละจะเป็นมารเสียเองเน้อ ถ้ากลัวพระเหงาก็ถวายสีกาเนืองๆเลยบ่อดีกะครับ ถ้าคนเฮาคิดอย่างนั้น เฮาต้องเข้าใจก่อนว่า เปิ่นบวชเพื่ออะหยัง ตัง รวย ลาภ ยศ หรือ สรรเสริญ คิดและทำกันเองเองเน้อ พระจะดีบ่อดี มันขึ้นกับเฮาตวย อย่าไปว่าแต่พระอย่างเดียวเน้อ มันบ่อดี 555+
IP : บันทึกการเข้า


มาทาง Big-C ถ.ศรีทรายมูล สันสลีซอย1
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 25 มิถุนายน 2013, 22:35:03 »

  ไหว้สามายังญาติธรรม
ทำบุญ ที่ประกอบด้วยปัญญา คือ มีทั้งบุญความดี กุศลความฉลาด
ทำดี ต้องตามพระธรรม  พระวินัย  ไม่เอาโลกมาใหญ่กว่าธรรม
เอาถูกต้องตามธรรม  มาก่อน การเอาถูกใจทางโลก
IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
tassanai
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 320


« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 28 มิถุนายน 2013, 10:58:27 »

    การทำบุญแบบพื้นฐานของปุถุชน น่าจะมี  ๓ อย่าง คือ ๑) การให้ ที่เรียนว่า ทาน หรือ ตานในภาษาล้านนา) เป็นการให้สิ่งของ เช่น ถวายของแก่ส่วนรวมที่เรียกว่า"สังฆทาน" สังฆ แปลว่า ของส่วนรวม ของหน้าหมู่  ผู้รับนำไปใช้ในงานส่วนรวม เช่น นำทราย หิน ฯลฯ ไปสร้างถาวรวัตถุทางศาสนา  การบริจาคของให้โรงเรียน หมู่บ้าน ฯลฯ  ที่เข้าใจกัน คือ การถวายอาหารและสิ่งของจำเป็นแก่พระภิกษุ(๑-๓ รูป) หรือหมู่สงฆ์ (๔ รูปขึ้นไป) ทั้งสองจะต้องมีศีล ๒๗๗ ข้ออย่างบริสุทธิ์  อาหารที่ถวายต้องเป็นอาหารที่ฉันได้ คือ สุก ไม่ดิบ  การถวายลาบดิบ แหนมดิบ เนื้องู ฯลฯ ได้บาป ถวายเลยเวลา ๑๒.๐๐ น.ได้บาป ที่กล่าวมาเป็นเพียงความรู้นิดหนึ่ง ต้องไปศึกษาจากเอกสารตำรามีมากมาย สรุปว่า การถวายจะมีองค์ประกอบ ๓ คือ ตัวเรา (มีศรัทธา ตั้งใจ ไม่เสียดาย ฯลฯ) /อาหาร (พระฉันได้ตามวินัยสงฆ์) /และผู่รับ( มีศีลตามวินัยพระภิกษุ ดังบทสวดพระสังฆคุณ คือ เป็นผู้ปฏิบัติตรง ชอบ สมควรรับทักษินาทาน ควรกราบไหว้ เหมาะสมเป็นเนื้อนาบุญของโลก)  ต่อไปคือการให้ธรรมทาน เช่น การอบรมสั่งสอนในสิ่งที่ดีที่ควร สุดท้ายน่าจะได้แก่ การให้อภัย  ซึ่งแทบจะไม่ได้ลงทุนเลย
   ๒) การปฏิบัติตามศีล (ข้อควรปฏิบัติ) ปุถุชน คือ ศีล ๕ และ ๘ ถ้าเราทำครบ บุญย่อมเกิดที่เรา เพราะเราไม่ทุกข์ใจไปกับการกระทำที่"ทุศีล" หรือ ศีลแปลว่าความปกติ ถ้าเราจะทำตัวให้ปกติ เช่น ไม่รังแก ฆ่า สิ่งมีชีวิต  ไม่เอาของคนอื่นมาเป็นของตน  ไม่มักมากในกาม  ไม่พูดเท็จ คำหยาบ ส่อเสียด  ไร้สาระ ฯลฯ และ ไม่มั่วสุมหลงกับอบายมุข  ทั้งหลายเราย่อมปกติกว่าคนที่ทุศีล  ๓) การภาวนา (พัฒนา) คือการพัฒนาตนเองให้มีสัมมาทิฏฐิ  ดูความชั่วความดีของตนเอง ไม่เพ่งดูสิ่งภายนอก  บางทีเราเรียกว่า"วิปัสสนา" คือ รู้ตัวอยู่เสมอว่าเราทำอะไร  ใจมันคิดอะไรให้ตามมัน มันคิดดี คิดชั่วให้ตามมัน  ฯลฯ การที่เรานึกถึงตัวเองตลอดเวลา จะไม่มีเวลาคิดไปถึงบุคคลอื่น เรื่องอื่น นี่แหละคือได้บุญ เพราะเราไม่ไปทำบาป ดังศีลที่ว่ามา   ทั้งมวลคือเสี้ยวหนึ่งของคำแนะนำ ต้องเรียนรู้ด้วยตนเองที่เรียกว่า"ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิติ" มันรู้ได้เฉพาะตัวเรา
IP : บันทึกการเข้า
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 07 สิงหาคม 2013, 01:56:23 »

หนาน  ขออนุญาต  จัดให้อ่านง่าย นะ  คุณtassanai
    การทำบุญแบบพื้นฐานของปุถุชน น่าจะมี  ๓ อย่าง คือ
๑) การให้ ที่เรียนว่า ทาน หรือ ตานในภาษาล้านนา) เป็นการให้สิ่งของ เช่น
 ถวายของแก่ส่วนรวมที่เรียกว่า"สังฆทาน" สังฆ แปลว่า ของส่วนรวม ของหน้าหมู่  ผู้รับนำไปใช้ในงานส่วนรวม เช่น นำทราย หิน ฯลฯ ไปสร้างถาวรวัตถุทางศาสนา  การบริจาคของให้โรงเรียน หมู่บ้าน ฯลฯ 
ที่เข้าใจกัน คือ การถวายอาหารและสิ่งของจำเป็นแก่พระภิกษุ(๑-๓ รูป) หรือหมู่สงฆ์ (๔ รูปขึ้นไป) ทั้งสองจะต้องมีศีล ๒๗๗ ข้ออย่างบริสุทธิ์ 
 อาหารที่ถวายต้องเป็นอาหารที่ฉันได้ คือ สุก ไม่ดิบ  การถวายลาบดิบ แหนมดิบ เนื้องู ฯลฯ ได้บาป ถวายเลยเวลา ๑๒.๐๐ น.ได้บาป ที่กล่าวมาเป็นเพียงความรู้นิดหนึ่ง ต้องไปศึกษาจากเอกสารตำรามีมากมาย
สรุปว่า การถวายจะมีองค์ประกอบ ๓ คือ ตัวเรา (มีศรัทธา ตั้งใจ ไม่เสียดาย ฯลฯ) /อาหาร (พระฉันได้ตามวินัยสงฆ์) /และผู่รับ( มีศีลตามวินัยพระภิกษุ ดังบทสวดพระสังฆคุณ คือ เป็นผู้ปฏิบัติตรง ชอบ สมควรรับทักษินาทาน ควรกราบไหว้ เหมาะสมเป็นเนื้อนาบุญของโลก)  ต่อไปคือการให้ธรรมทาน เช่น การอบรมสั่งสอนในสิ่งที่ดีที่ควร สุดท้ายน่าจะได้แก่ การให้อภัย  ซึ่งแทบจะไม่ได้ลงทุนเลย
 

 ๒) การปฏิบัติตามศีล (ข้อควรปฏิบัติ)
 ปุถุชน คือ ศีล ๕ และ ๘ ถ้าเราทำครบ บุญย่อมเกิดที่เรา เพราะเราไม่ทุกข์ใจไปกับการกระทำที่"ทุศีล"
 หรือ ศีลแปลว่าความปกติ ถ้าเราจะทำตัวให้ปกติ เช่น ไม่รังแก ฆ่า สิ่งมีชีวิต  ไม่เอาของคนอื่นมาเป็นของตน  ไม่มักมากในกาม  ไม่พูดเท็จ คำหยาบ ส่อเสียด  ไร้สาระ ฯลฯ และ ไม่มั่วสุมหลงกับอบายมุข  ทั้งหลายเราย่อมปกติกว่าคนที่ทุศีล 

๓) การภาวนา (พัฒนา)
 คือการพัฒนาตนเองให้มีสัมมาทิฏฐิ  ดูความชั่วความดีของตนเอง ไม่เพ่งดูสิ่งภายนอก  บางทีเราเรียกว่า"วิปัสสนา"
คือ รู้ตัวอยู่เสมอว่าเราทำอะไร  ใจมันคิดอะไรให้ตามมัน มันคิดดี คิดชั่วให้ตามมัน  ฯลฯ การที่เรานึกถึงตัวเองตลอดเวลา จะไม่มีเวลาคิดไปถึงบุคคลอื่น เรื่องอื่น

 นี่แหละคือได้บุญ เพราะเราไม่ไปทำบาป ดังศีลที่ว่ามา   ทั้งมวลคือเสี้ยวหนึ่งของคำแนะนำ ต้องเรียนรู้ด้วยตนเองที่เรียกว่า

"ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิติ" มันรู้ได้เฉพาะตัวเรา

หนานขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยหนาท่าน
IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!