เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย

เพิ่งไปมาเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมานี้เองครับ นานแล้วไม่ได้โพสรูปห้องนี้  ;D

ทริปนี้เป็นการเดินทางไปกับครอบครัว 3 วัน 4 คืน เผื่อวันหยุดยาวนี้ ใครสนใจไปเที่ยว  ก็ลองอ่านข้อมูลคร่าวๆนะครับ
โดยเป้าหมายหลักอยู่ที่ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์

ชุ่มฉ่ำกับสายฝนตลอดทริปการเดินทาง เริ่มทางจากเชียงราย ประมาณ 9 โมงเช้าฝนตกปรอยๆ ขับไปแบบเที่ยวเพลินๆ ไม่รีบเกินไป วันแรกผมตั้งจุดหมายไว้ที่ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า

ใช้เส้นทางเชียงราย-พะเยา-แพร่-อุตรดิตถ์ เลี้ยวเข้า อ.ทองแสนขัน แล้วต่อไปยัง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก - อ.นครไทย เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า

ซึ่งดูจากแผนที่แล้วหากเราเดินทางจากเชียงรายไป หากจะไปภูทับเบิกทางนี้จะสะดวกและทำเวลาได้เร็วและง่ายที่สุด ไม่ต้องขับรถขึ้นเขามากเหมือนเส้นทางอื่น

ไปถึงภูหินร่องกล้าประมาณ  4 โมงเย็น แวะนอนพักในอุทยานฯ เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับดีมากๆ จันทร์-พฤหัส ห้องพักราคาถูกครับ ผมจึงเลือกเดินทางเที่ยวช่วงกลางสัปดาห์

ที่นี่มีห้องพักและลานกางเต้นท์ให้บริการ มีร้านอาหาร 2-3 ร้าน เปิดถึง 2 ทุ่ม  บ้านพักมีหลายแบบหลายราคาให้เลือกตามความพอใจ

อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตั้งอยู่บนรอยต่อของสามจังหวัด คือ อ.ด่านซ้าย จังหวัดเลย อ.นครไทย จังหวัดพิษณุโลก และ อ.หล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นพื้นที่ที่ มีธรรมชาติแปลก และสวยงาม ทั้งยังเป็นดินแดนแห่งประวัติศาสตร์เป็นยุทธภูมิ ที่สำคัญ อันเนื่องจากความขัดแย้งของลัทธิ และแนว ความคิดทางการเมือง อุทยานแห่งชาติ ภูหินร่องกล้าจึงเป็นอุทยานแห่งชาติเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ที่รักษาไว้ซึ่งประวัติศาสตร์ ของการสู้รบและความสวยงามทางธรรมชาติที่สมบูรณ์ ลักษณะภูมิอากาศภูหินร่องกล้ามีลักษณะภูมิอากาศคล้าย ภูกระดึงและภูหลวง เนื่องจากมีความสูง ในระดับไล่เลี่ยกัน อากาศจะหนาวเย็นเกือบตลอดปี โดยเฉพาะในฤดูหนาว อุณหภูมิ จะต่ำประมาณ 4 องศาเซลเซียส ฤดูร้อนอากาศจะเย็นสบาย ฝนตกชุกในฤดูฝน อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปี ประมาณ 18-25 องศาเซลเซียส

ถึงที่ทำการอุทยาน ติดต่อที่พักเสร็จ ก็ไปเดินเล่นชมลานหินแตก 

อยู่ใกล้ๆที่ทำการอุทยานฯ เป็นลานหินบริเวณกว้างเนื้อที่ประมาณ 40 ไร่ ที่เกิดจากการโก่งตัว หรือ เคลื่อนตัวของผิวโลก จึงทำให้พื้นหินนั้นแตกออกเป็นแนว  ลานตรงนี้เมื่อเดินไปจนสุด จะเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่งดงาม

บริเวณอุทยานไม่ได้ถ่ายรูปไว้ หลังจากไปเดินเล่นลานหินแตกกลับมาฝนก็ตกจนค่ำ
คืนนี้นอนหลับสบาย นอนฟังเสียงฝนตก เสียงจิ้งหรีด บรรยากาศเงียบมากๆ  ;D


เช้าอีกวันที่ 2
เตรียมตัวไปภูทับเบิก  จากที่ทำการอุทยานภูหินร่องกล้าไปภูทับเบิกประมาณ 30 กิโล ถนนลาดคอนกรีตตลอด ส่วนใหญ่เป็นเส้นทางลงเขา

ระหว่างทางก็แวะเที่ยว แหล่งท่องเที่ยวต่างๆภายในอุทยาน  ถ้าจะเที่ยวให้หมดคงต้องใช้เวลาเกือบทั้งวัน เหมาะสำหรับคนที่ชอบประวิติศาสตร์ ผมเลือกไปตามแหล่งท่องเที่ยว ที่อยู่ระหว่างทางเท่านั้น

จุดแรกแวะเที่ยวลานหินปุ่ม  ไปภูทับเบิกยังไงก็ต้องผ่านอยู่แล้วก็เลยแวะเที่ยวดู

อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 4 กม. และต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร จะถึงลานหินปุ่ม
ตั้งอยู่ริมหน้าผา ลักษณะลานหินซึ่ง มีหินผุดขึ้นมาเป็นปุ่มเป็นปมขนาดไล่เลี่ยกัน คาดว่า เกิดจากการสึกกร่อนตามธรรมชาติของหิน ในอดีตบริเวณนี้ใช้เป็นที่พักฟื้นของคนไข้ของ โรงพยาบาล เนื่องจาก อยู่บนหน้าผา มีลมพัดเย็นสบาย

เดินไปสักพัก จะมองเห็นยอดเขา ผาชูธง ที่ในอดีตเมื่อฝ่ายคอมมิวนิสต์รบชนะทหารฝ่ายรัฐบาล จะขึ้นไปชูธงบนหน้าผาแห่งนี้  สามารถเดินอ้อมจากลานหินปุ่ม ขึ้นไปเที่ยวได้

ตลอดทางเดินจะเป็นลานหินพื้นที่เรียบๆ เดินข้ามหิน ข้ามน้ำเพลินๆ พอได้เหงื่อ ก็ได้มาถึงบริเวณยอดลานหินปุ่ม เป็นหน้าผาสูงชัน ลมเย็นมากๆ ในอดีตที่มีการสู้รบกันจึงใช้พื้นที่บริเวณนี้เป็นที่พักคนไข้ มีหินผุดขึ้นมาเป็นปุ่มเป็นปมขนาดไล่เลี่ยกัน คาดว่า เกิดจากการสึกกร่อนตามธรรมชาติของหิน

จากลานหินปุ่ม ไปผาชูธงอีก 500 เมตร  เดินมาได้กิโลกว่าแล้ว จะกลับทางเดิมก็เห็นไม่คุ้ม

ผาชูธง เป็นหน้าผาสูง ถ้ามาตอนเย็นจะเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากๆ เป็นหน้าผาที่ในอดีตเมื่อฝ่ายคอมมิวนิสต์รบชนะทหารฝ่ายรัฐบาล จะขึ้นไปชูธงบนหน้าผาแห่งนี้ เพื่อประกาศศักดาแห่งชัยชนะ

จากตรงนี้ไปยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกหลายจุด แต่พอดีผมเซ็ตเวลาเที่ยวไว้ตรงนี้แค่ครึ่งวัน พอถึงผาชูธงก็เดินกลับมายังลานจอดรถซึ่งอยู่ไม่ใกลจากตรงนี้

ออกจากภูหินร่องกล้ามาตอนบ่ายโมง  ถึงภูทับเบิกประมาณบ่ายสองโมงกว่าๆ ฝนตกตลอดทาง คิดไว้ว่าจะไปกางเต้นท์ชมทะเลหมอก เลยเปลี่ยนแผนไปนอนบ้านพัก ช่วงนี้ราคาถูกแล้วครับ ประมาณ 800-1500 ผมนอนที่บ้านจันผา  บ้านพักเป็นหลัง ราคา 1100 บาท/หลัง วิวสวยใช้ได้เลยครับ

บรรยากาศไร่กะหล่ำภูทับเบิก ตอนสี่โมงเย็น ครึ้มๆ หลังฝนหยุด  ;D

จากเชียงรายไปทับเบิกเพื่อไปดูไร่กะหล่ำ  ;D

จุดชมวิว ที่หอดูดาวภูทับเบิก ความสูง 1768 เมตร เป็นจุดที่สูงสุดของจังหวัดเพชรบูรณ์

ทำเลพื้นที่เขาดีจริงๆ แม้ฝนจะตกก็ยังมีนักท่องเที่ยวขึ้นมาเที่ยวเรื่อยๆ

กลางคืน ฝนปรอยๆ รีบถ่ายรีบเก็บกล้อง

ผิดหวันนิดหน่อย เช้ามาไม่มีทะเลหมอกให้เห็น เนื่องจากฝนตกตลอดทั้งคืน  ;D

แต่ก็ได้บรรยากาศความเย็น ความเขียวชะอุ่มของสายฝนมาแทน

ฟ้าหลังฝนในตอนเช้า

ไม่เห็นทะเลหมอก ก็เดินไปเที่ยวไร่กะหล่ำเหมือนเดิม  ;D

ไร่กะหล่ำกว้างใหญ่สุดสายตา แต่ไม่มีกะหล่ำขาย  ;D

ยิ่งสายหมอกยิ่งหนาทึบขึ้นเรื่อยๆ  แต่ทีพักเขาให้เช็คเอ้าท์ 10 โมงเช้า 

ไว้วันหน้ามีโอกาสจะไปถ่ายทะเลหมอกใหม่  ;D


ก่อนกลับก็ขับรถลงไปเที่ยวในหมู่บ้าน  เห็นกำลังสร้างที่พักเพิ่มขึ้นมาตลอดสองข้างทาง

แวะชมวิวและทิ้งท้ายภูทับเบิกด้วยวิวตรงข้ามที่พัก

จากภูทับเบิกมาตอนเที่ยง ก็ลงมาทางอำเภอหล่มเก่า อีกประมาณ 30 กิโล  ทางลงเขาเป็นส่วนใหญ่ เลือกเดินทางแบบนี้เพราะจะได้ประหยัดน้ำมัน และไม่ต้องลุ้นรถติดตอนขึ้นเนินดอย  ทางที่ผมไปทั้งหมดจะไม่ย้อนเส้นทางเดิม ขับไปข้างหน้าเรื่อยๆ

ขับรถมุ่งหน้าไปทาง อ.เขาค้อ ใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง ก็ถึงตัวอำเภอ แวะเที่ยวผาซ่อนแก้ว  ขับรถมามองเห็นองค์พระอยู่บนยอดเขาชัดเจน

ออกจากวัดผาซ่อนแก้ว ก็เที่ยงพอดี แวะทานข้าวเติมน้ำมันให้เต็มถัง  แล้วเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ซึ่งอยู่ห่างจากวัดผาซ่อนแก้วไปอีกประมาณ 40-50 กม.  ต้องการไปชมทุ่งหญ้าสะวันนาที่ใหญ่ที่สุดของเมืองไทย ก็เลยต้องใช้เส้นทางนี้ เพื่อไปยังบ้านหนองแม่นา ซึ่งเป็นที่ตั้งของ อช.ทุ่งแสลงหลวง หน่วยหนองแม่นา

ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เราก็ได้มาถึงที่ทำการอุทยาน  ถ่ายรูปได้เท่าที่จะถ่ายไว้ทันครับ ขับไปด้วยถ่ายไปด้วย

บรรยากาศหลังฝนตกอีกเช่นเคย ทำให้หันมองไปทางไหนก็เขียวไปหมด ก็เลยตัดสินใจพักที่นี่อีก 1 คืน นักท่องเที่ยวไม่เยอะ เจ้าหน้าที่ก็ให้บริการดี

เพื่อให้เข้าบรรยากาศเลือกที่จะกางเต้นท์นอน ทั้งอุทยาน มีหลังเดียว  ;D

กางเต้นท์เสร็จ ก็ขับรถไปเที่ยวจุดชมวิว ไปดูบรรยากาศทุ่งหญ้าสะวันนาเมืองไทย มีค่าใช้จ่าย ผู้ใหญ่คนละ 40 บาท รถยนต์คันละ 30 บาท  ทางอุทยานมีจักรยานให้เช่าชั่วโมงละ 50 บาท

ถ้าพักในอุทยาน ซื้อบัตรครั้งเดียวไปกี่รอบก็ได้

รถยนต์ที่จะเข้าไปข้างในต้องเป็นรถ 4x4 เจ้าหน้าที่จะถามก่อนจ่ายเงินซื้อบัตร ถ้าเป็นรถ 4x2 คงต้องปั่นจักรยานเข้าไป แต่ทางก็สะดวกครับ

จากที่ทำการ เข้าไปยังจุดชมวิว อีก 4 กิโล จะได้พบกับบรรยากาศทุ่งหญ้า โชคดีอาจเจอกวาง เก้ง วิ่งให้เห็น ถ้ามีสิงโตกับยีราฟอีกคงเหมือนทุ่งหญ้าในแอฟริกา   ;D

ต้นไม้ ต้นหญ้า ถนนหนทางต่างๆ มันก็สวยงามตามท้องเรื่อง

ตอนเช้าผมกลับขึ้นมาจุดนี้อีกรอบ ถึงได้เข้าใจว่าทำไม เจ้าหน้าที่ต้องให้แต่รถ 4x4 เข้าไป ถนนเป็นผิวทรายเมื่อฝนตกถนนนี้จะลื่นมากๆ ขนาดทางเรียบยังลื่นเลย ;D ;D

มุมมหาชน ศาลาดุสิตา ถ้าเป็นช่วงฤดูหนาว หรือวันที่มีหมอกลง จะเห็นทะเลหมอก ล่องลอยอยู่บนยอดไม้ คล้ายภาพวาด

ก่อนพระอาทิตย์ตกดินก็กลับมาถ่ายรูปเล่น บริเวณที่กางเต้นท์อีกรอบ

ถ้าชอบนั่งชมพระอาทิตย์ตกดิน ที่นี่สามารถมองเห็นได้จากที่ทำการอุทยาน

แสงสีทองของอาทิตย์ยามเย็น ที่ส่องมากระทบยอดหญ้า มีเมฆเป็นฉากหลัง ถ้าถ่ายภาพพรีเวดดิ้งคงจะสวย

แต่ละฤดูกาล ที่นี่จะสีสันแต่กต่างกัน ฤดูฝนที่นี่จะเขียว ถ้าเป็นช่วงหนาวต้นหญ้าใบไม้ก็จะเปลี่ยนเป็นอีกสี จึงเที่ยวได้ทุกฤดูกาล

รอมานาน ช่วงสุดท้ายก่อนลับขอบฟ้า เมฆบังเสียแล้ว  ;D

โดยรวมที่นี่บรรยากาศสวยงาม มีแหล่งท่องเที่ยวหลายจุด มีบ้านพักที่สามารถพักแรมได้เป็นหมู่คณะ หลังละ 2-3000 บาท  มีลานกางเต้นท์กว้างขวาง มีห้องน้ำ มีเจ้าหน้าที่ให้บริการตลอดทั้งคืน  ร้านอาหารช่วงนี้ไม่มี จะเข้าไปค้างแรมต้องหาซื้อจากข้างนอก นำเข้าไป ขยะทุกอย่างต้องเก็บออกมาทิ้งข้างนอก ภายในอุทยานไม่มีถังขยะ

รูปหมดแล้วครับ ที่เหลือเก็บไว้ดูคนเดียว

หมดแล้วครับ สำหรับทริปการเดินทางเที่ยวฤดูฝน 3 คืน 4 วัน

ยังมีแหล่งท่องเที่ยว จุดชมวิวข้างทางเล็กๆน้อยๆ ร้านกาแฟน่ารัก อีกหลายแห่งที่แวะเที่ยวได้ แต่ส่วนมากก็ไม่ได้ถ่ายรูปมองดูด้วยตาเฉยๆ  ;D

ระยะทางไป-กลับ 1000 กว่ากิโล
Toyota Sport Rider 2.5D4D
เติมน้ำมันในเมือง ขาไปเต็มถัง 1200 บาท
ขากลับเติมที่ อ.เขาค้อ 1300 บาท ถึงเชียงรายพอดี

สบายตา สบายใจ

เห็นแล้วคิดถึงเลยครับ อยากกลับไปอีก รูปสวยมากๆ ครับ

นายโพสได้สุดยอดมากอ่านไปดูไปโครตได้อารมณ์เหมือนไปเที่ยวเลยครับ
วันหน้าถ้ามีทริปไหนลงอีกนะครับ

งดงาม ;D ;D ;D

ดูแล้วเพลินเลย รู้สึกเย็นฉ่ำ ขอบคุณสำหรับภาพสวย ๆ ครับ ;D

(http://www.uppic.org/image-6B78_57A596A7.jpg)

สวยงามมากคะ. 

ว่าจะไปเพชรบูรณ์อยู่พอดี ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดีครับบ

รอชมภาพสวยๆครับ  ;D



และขอขอบคุณทุกคอมเม้นท์ครับ โพสไว้ไม่ได้กลับมาตอบเลย  ;D

เมืองไทย น่าแอ่ว บรรยากาศดีแต๊ๆ แอ่วช่วงนี้อากาศพอดีๆ คนไม่มากด้วย ฮูปงามขนาด เดี๋ยวนี้มีหน่อน้อย หน่อใหญ่ ครบพอดี ครอบครัวอยู่ดีมีสุข ยินดีตวย